เคล็ดลับเก็บเงินให้รวย ตามรอย The Richest Man in Babylon

วันก่อนแอดนั่งอ่านหนังสือ The Richest Man in Babylon ที่เป็นหนังสือทางด้านการบริการจัดการเงิน โดยมี setting เป็นบรรยากาศย้อนยุคไปในช่วงที่เมือง Babylon กำลังรุ่งเรืองครับ ตัวเอกของเรื่องคือ Arkad ซึ่งเป็นอดีตคนทำรถม้าที่ได้เคล็ดลับวิชาในการเพิ่มความ รวยย !! ให้กับตัวเองมา และได้มีการถ่ายทอดให้กับคนอื่นต่อไป เคล็ดลับของ Arkad ที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้นั้นเข้าใจได้ไม่ยากเลยครับ ไม่จำเป็นจะต้องมีเงินเยอะ มีรายได้เยอะ เพียงแค่ขอให้เราเริ่มได้เร็ว ก็จะรวยได้ไว

.

สำหรับเคล็ดลับสร้างความมั่งคั่งทั้ง 7 ข้อมีดังนี้ครับ

1- มี 10 หยิบ 1

ถ้าเรามีรายได้ ไม่ว่าจะมากน้อยต่างกันขนาดไหน ขอให้แบ่งเป็น 10 ส่วน

ให้เราหยิบออกมาเก็บ 1 ส่วน และที่เหลือก็สำหรับใช้ในชีวิต 9 ส่วน

2- คุมรายจ่าย

ไม่ว่าเราจะมี 10 หรือ 9 ส่วน เราก็ย่อมหาวิธีที่จะใช้หมดอยู่ดี (ฮา)

ดังนั้น ในรายจ่าย 9 ส่วนให้ดูว่า แบ่งเป็น "necessary expenses" หรือรายจ่ายจำเป็นกี่ส่วน

และเป็น "desire expenses" หรือรายจ่ายตามความอยากของเรากี่ส่วน

ดังนั้น สิ่งที่เราจะลดรายจ่ายได้ก็คือการไม่ซื้อในสิ่งที่ไม่จำเป็นครับ

3- ให้เงินทำงาน

เงิน 1 ส่วนที่เราเก็บนั้นมันนอนอยู่เฉยๆ ไม่ได้งอกเงยอะไร

ดังนั้นให้หาวิธีนำเงินเหล่านั้นมาสร้างมูลค่า

จะนำไปลงทุนหรือจะปล่อยกู้ยืมก็ดีกว่าการปล่อยเงินทิ้งไว้เฉยๆ

จะฝากเงินไว้เฉยๆ ก็ได้ตราบใดที่เราได้ผลตอบแทนงอกเงย

4- ลงทุนอย่างชาญฉลาด

ให้ระวังการลงทุนกับเพื่อน คนรู้จัก ญาติสนิทเพราะเราจะไม่คิดอย่างถี่ถ้วน

ไม่ลงทุนกับคนที่ไม่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น

ไม่ลงทุนกับคนที่ขายฝันมากกว่าความเป็นจริง...ความรักก็เช่นกัน ฮิ้ว

ไม่ให้ยืมเงินกับคนที่ไม่มีความสามารถในการหาเงิน

ฟังคนอื่นให้น้อย ฟังตัวเองให้มาก เพราะสุดท้ายแล้วเงินคือของเรา

5- ลงทุนกับบ้าน

ถ้าชีวิตเรามั่นคงแล้ว การลงทุนกับบ้านคือสิ่งที่คุ้มค่า เพราะเป็นการลงทุนให้กับครอบครัวและความสุข

การเช่าบ้านคนอื่นอยู่ เงินค่าเช่าที่จ่ายไปจะไม่กลายเป็นทรัพย์สินของเรา

แต่การซื้อบ้าน ต่อให้เป็นเงินค่าก่อสร้าง ค่าวัสดุอุปกรณ์ของตกแต่งมากมายขนาดไหน สุดท้ายบ้านก็ยังเป็นของเราเป็นทรัพย์สินของเรา

ซื้อบ้านพอประมาณ ตามความสามารถในการหาเงินของเรา ไม่ทำเกินตัว

6- ไม่มีใครหาเงินได้จนแก่

ยิ่งเราแก่เราจะยิ่งหาเงินได้น้อยลง

ดังนั้นยิ่งแก่เราต้องทำงานน้อยลง แต่ต้องให้เงินงอก-เงยจากการลงทุนให้มากขึ้น

ลงทุนกับบ้าน ถ้ามันสามารถสร้างมูลค่าให้งอกเงยได้

ลงทุนกับสิ่งที่ไม่เสื่อมค่า ทองคำ เครื่องประดับ ที่ดิน สิ่งของที่คนให้ค่า

ลงทุนกับเงินเก็บ 1 ส่วนให้มากขึ้น แล้วไม่กี่ปีมันจะงอกเงยแบบทวีคูณเลย

ลงทุนกับอะไรที่ทำให้เราเหนื่อยน้อยลง

7- พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ

การหาเงินเพิ่ม ไม่ได้หมายถึง การทำงานหนักขึ้น

แต่หมายถึงการทำงานน้อยลง แต่ได้เงินตอบแทนมากขึ้น

ความสามารถที่สูง งานที่ต้องการทักษะเฉพาะทาง

ก็ย่อมตามมาด้วยค่าตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อมากขึ้น

หมั่นเรียนรู้จากผู้ที่เก่งกว่า หมั่นสังเกตุว่าเราจะพัฒนาตัวเองได้อย่างไร

ฟังคนที่มีความสามารถ เชื่อคำเตือนของผู้ที่ล้มเหลวมาแล้ว

ความรู้ที่เรามีไม่ได้ใช้แค่ในงานเท่านั้น

แต่ความรู้นั้นสามารถขายได้ เล่าให้คนอื่นที่ต้องการความรู้ของเราได้

เปลี่ยนความรู้ของเราให้กลายเป็นรายได้และเงินทองได้

-----

 สุดท้ายนี้

-อย่าลืมจ่ายหนี้ที่มีอยู่ และเป็นไปได้อย่าซื้อของที่เกินกว่ากำลังของเราเอง

-ลงทุนกับคนที่ห่วงใยและหวังดีกับเรา

-ทำดีกับคนที่ขาดแคลนมากกว่าเรา

-ความรวยไม่ได้สำเร็จตั้งแต่เกิด แต่อยู่ที่ "practical experience"

-หมั่นฝึกฝน หมั่นเรียนรู้จากความผิดพลาด

-และให้รางวัลกับความสำเร็จเล็กๆน้อยๆ ก็ไม่เสียหายอะไร