ทำงานที่ออสฯ รายได้ดีขนาดนี้ เสียภาษีกันเท่าไหร่บ้าง?
- namchasang .
- Jan 13
- 1 min read

ช่วงปิดเทอมแบบนี้ visa นักเรียนหลายคนทำงานกันได้แบบ unlimited work hour หลายคนจึงกดชั่วโมงกันยับเลยครับ 55 ทำงาน 2-3 jobs เพื่อตักตวงรายได้ไว้ชดเชยในช่วงเปิดเทอมที่เราทำงานกันได้อย่างจำกัดเพียง 24 hr/fortnight กันเท่านั้น
โพสนี้แอดคงพูดคร่าวๆ เพราะเราไม่ใช่นักภาษีนักบัญชีอะเนาะ แต่อยากมาแชร์ให้หลายๆ คนที่สนใจมาเรียนต่อออสเตรเลีย รวมถึงเรียนอยู่ทำงานอยู่แล้วให้พอเข้าใจ concept คร่าวๆ ของการเสียภาษีที่นี่
คนส่วนใหญ่ที่ทำงานที่นี่เงินเดือนจะออกทุกๆ 2 สัปดาห์ ดังนั้นตัว payslip ของเค้าจะเป็นราย 14 วัน หรือที่เรียกกันว่า fortnight
ถ้าคุณทำงานแบบไม่ได้รับ cash (เงินสด) คุณจะต้องมีการแจ้งเลข Tax File Number กับนายจ้างหรือร้านที่เราทำ เพื่อใช้ในการยื่นจดแจ้ง การมีรายได้ของเราและอัตราภาษีที่เราต้องจ่ายโดยหักจากรายได้ของเราด้วย
รายได้ของเราเมื่อ payslip ออกเราจะโดนหักภาษีหรือที่เรียกว่า Pay as You Go (PAYG) มากน้อยต่างกันไปขึ้นอยู่กับรายได้ของเรา และถ้าเรามีรายได้อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้ TAX Free Threshold คือมีรายได้ส่วนแรกของเราจาก $0 จนถึง $18,200 ของรอบปีภาษีนั้นๆ เราจะสามารถขอ claim ภาษีในส่วนที่เราโดนหักไปแล้วได้ เกินจากนั้นก็โดนคิดภาษีกันไปปกติ
ตัวอย่างตารางหัก PAYG ของรายได้ fortnight มาให้ดูเป็นไอเดียครับ
1) เรามีรายได้ $600/fortnight เราจะถูกหักภาษี $112 ในรอบนั้น แต่ถ้ามี threshold ด้วยรายได้ระดับนี้เราจะไม่โดนหักภาษีเลย เป็นศูนย์
2) มีรายได้ $1,000/fortnight ถูกหัก $190 และโดนแค่ $44 with tax-free threshold
3) มีรายได้ $2,000/fortnight ถูกหัก $510 และโดน $286 with tax-free threshold
4) มีรายได้ $4,000/fortnight ถูกหัก $1,150 และโดน $928 with tax-free threshold
5) มีรายได้ $6,800/fortnight (สุดตาราง) ถูกหัก $2,222 และโดนแค่ $1,936 with tax-free threshold
ส่วนคนที่มีรายได้มากกว่านี้ ก็จะโดนหักในอัตราที่มากกว่าในตาราง ตามเกณฑ์ที่ ATO กำหนด ถ้าเงินเยอะก็โดนภาษีเยอะอะเนาะ เรื่องปกติ
ส่วนคนที่มาทำงานด้วย WAH จะไม่ได้อ้างอิงตามตารางนี้ เดียวโพสต์ให้คอมเม้นท์ให้ครับ
ส่วนคนที่ทำงาน sole trader, สาย ABN, เป็น subcontract ขับ uber didi doordash จะเห็นว่า payslip เราจะไม่มีการหัก withholding Tax ดังนั้นเมื่อถึงรอบที่เราต้องยื่นภาษีนั้นเราต้องรวม payslip บิลใบเสร็จต่างๆ ที่จะช่วยลดหย่อนภาษีก้อนใหญ่ที่เราต้องจ่าย บางคนทำงานได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วย ถึงรอบจ่ายภาษีทีอ้วกแตกทีเพราะไม่ได้กันเงินส่วนนี้ไว้ ต้องจ่ายทีเป็นหมื่นเหรียญก็มีครับ
ถ้าคุณทำงาน sole-trader และมีรายได้เกิน $75,000 คุณสามารถแจ้งจด GST เพื่อเคลมเบิกพวกค่าน้ำมันและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการประกอบธุรกิจได้ด้วยครับ
นอกเหนือจากรายได้ การทำงานในออสเตรเลียเรายังสามารถเอารายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน มาใช้ลดหย่อนภาษีได้ด้วย คล้ายๆ กับที่ไทยเลยครับ ทั้งบิลค่าน้ำมัน ค่าเดินทาง ค่าข้าวของเครื่องใช้ ค่าผ่อนบ้านผ่อนรถ ค่าเล่าเรียนบุตร ก็ขึ้นอยู่กับงาน ประเภทนายจ้าง ประเภท visa ฯลฯ ถ้าอยากที่จะ maximise ก็ใช้บริการ accountant ยื่นให้ดีที่สุดครับ รับรองพี่เค้ารีดให้ครบทุกหยาดเหงื่อแรงกายจากรายจ่ายของเราเลย 55
สำหรับปีภาษีของออสฯ นั้นจะ cut-off ที่วันสุดท้ายของเดือนมิถุนายน และมีเวลาในการ declare กับ ATO ถึงประมาณเดือนตุลาคม ถ้าเกินนั้นก็ยังสามารถยื่นผ่าน accountant ได้อยู่ และถ้าจ่ายไม่ไหวภาษีที่นี่ผ่อนได้ครับ
จะเห็นว่า ถ้าคุณมีรายได้ปกติในระดับมนุษย์ทั่วไป 555 ประมาณ $50,000-$100,000 คุณก็จะโดนภาษีประมาณ 25-30% นี่ล่ะครับ ซึ่งในความคิดเห็นของแอดเองนะครับ เน้น !!!! ถ้าคุณอยู่ไทยรายได้พนักงานออฟฟิสทั่วไปประมาณปีละ 3-4 แสน แล้ววันนึงย้ายมาอยู่ออสฯได้เงินปีละ $50,000-70,000 แล้วเจอภาษีในอัตรา 25% ไป คุณก็จะบ่นว่าแพง (แหงแหละ)
แต่ถ้าคุณอยู่ไทย ทำงาน mid-level เจอภาษีปีละ 25-30% มาทั้งชีวิต วันนึงย้ายมาออสฯ เจอภาษีหนักหนาพอกัน แต่เทียบกับสิ่งที่ได้รับ คุณจะบอกว่ายังไงก็คุ้มเห็นๆ
เงินภาษีที่จ่ายไป ก็กลายเป็นคุณภาพชีวิตที่ดีของออสเตรเลียนี่ละครับ ขนส่งสาธารณะที่ดี ความสะอาดของเมือง สวนสาธารณะที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพรียบพร้อม มีการจัดการเพื่อป้องกันไฟป่าที่ดีจากบทเรียนที่เคยมีมาแล้ว ลูกเรียนฟรี รักษาฟรี มีเงินช่วยเหลือมากมาย บริการของรัฐหลากหลาย มีงานกิจกรรมอีเว้นท์ต่างๆของเมือง รวมถึงพวก public areas ที่ทุกคนก็มาใช้ร่วมกันได้นั้นก็กลายมาเป็นคุณภาพชีวิตเหล่านี้ที่ตอบแทนกลับมาสู่ผู้เสียภาษีที่ทำงานหนักกันทุกคน
ถ้าเป็นอย่างบ้านเรา เสียภาษีเป็นแสนๆ เจออากาศพิษ PM2.5 AQI 200 เข้าไปแบบนี้ แม่งก็เสียดายภาษีที่จ่ายจริงๆ นะ เงินภาษีที่จ่ายไปพี่เอาไปทำอะไรกันหว่า