top of page

แนะนำการสอบใบขับขี่ NSW ตั้งแต่ต้นจนจบ



ทาง NSW พึ่งมีการปรับเปลี่ยนกฎใหม่ในเรื่องของการถือ driving license ที่นี่ดังนี้ครับ

Changes include:

 if you arrived before 1 Jul 2023, you have until 1 Mar 2025 to get an NSW Driver Licence

 if you arrived after 1 Jul 2023, you have 6 months to get an NSW Driver Licence.


ถ้าคุณเข้าออสเตรเลียครั้งแรกก่อน 1 July 2023 จะสามารถใช้ใบขับขี่ไทยได้ถึง 1 Mar 2025 (ปีหน้า) แต่ถ้าคุณมาถึงออสเตรเลียหลังจากวันนั้น คุณสามารถใช้ใบขับขี่ไทยได้ 6 เดือนเท่านั้นครับผม จากนั้นต้องสอบเอาใบขับขี่ของที่นี่เช่นกัน


สำหรับคนที่มีใบขับขี่ถาวรที่ไทยนั้นสามารถ transfer มาเป็น NSW Full license ได้ทันทีครับโดยต้องทำการสอบข้อเขียนและสอบปฏิบัติเพียง 2 ด่านเท่านั้นเอง ประกอบด้วย

1) Driving Knowledge Test (DKT) ปรนัย 45 ข้อ

2) Driving Test


อย่างของ DKT มีแอพให้เราลองฝึกทำข้อสอบด้วยตัวเองได้เรื่อยๆ ครับ สามารถหาใน app store ได้เลย โดยตัวข้อสอบก็จะมาจาก NSW driving guidebook ตัวเดียวกันครับ เนื้อหาก็จะเกี่ยวข้องกับป้ายจราจรรูปแบบต่างๆ เส้น marking บนพื้นถนน road rules ในการขับขี่บนถนนสาธารณะที่ออสเตรเลีย ซึ่งการขับรถที่ออสเตรเลียไม่ยากครับ คล้ายๆที่ไทยแหละ แถมง่ายกว่าด้วย ... แต่การสอบใบขับขี่นั้นเป็นคนละเรื่องเลยครับ 555 เพราะมันมี 3 สิ่งที่เราต้องแสดงให้คนประเมินเห็นอยู่เสมอ

1) Low-risk driving

2) obey road rules

3) caution

.

เราอาจขับรถถูกกฎจราจร เว้นระยะเหมาะสม ทำ head check อยู่ตลอด แต่ถ้าเราผิดพลาด 1 ครั้ง และความผิดพลาดนั้นมันทำให้เกิด risk ต่อเพื่อนร่วมถนนคนอื่น จุดนั้นเราจะโดนทด 1 ครั้ง และเมื่อครบ 3 ครั้งเราจะตกครับ ...แต่ถ้าทำพลาดตรง fail item อันนี้ครั้งเดียวจบครับ ..คนสอบมันก็ไม่บอกหรอก ให้เราขับไปเรื่อยๆ มาบอกตอนกลับมาศูนย์สอบทีเดียว 55


1) มี video สอนขับรถแนะนำไม๊?

ตอนก่อนสอบแอดดูอยู่ 2 ช่องครับ ช่องแรกเป็นของคนออสฯชื่อ Jimbo ช่อง The Driving Test Guy

อย่างตอนนี้แอดก็เปิดคลิป youtube ที่สอนขับรถให้มันซึมเข้าหัวไปเรื่อยๆ อย่างคลิปของ @krupatdriving นี่ก็มีประโยชน์มากๆครับ ช่วยเก็บนิสัยเสียนิสัยของแอดเองได้เยอะมากๆ รวมถึงให้ไปดูคลิปพวก driving test route ของศูนย์สอบที่เราจะสอบด้วยจะได้พอเดาเส้นทางที่เราจะสอบได้ หรือถ้าอยากรู้จริงๆ ว่าตอนนี้นั้นเค้าใช้ route ไหนสอบขับกัน ให้ดูว่ารถคันไหนที่ฝึกขับอยู่ แล้วคนนั่งหน้าใส่เสื้อกั๊ก Hi-vi ก็นั่นละครับ 55


-----

2) จริงๆ เราควรไปสอบศูนย์สอบนอกเมืองไม๊ ??

อย่างแอดเองคิดว่าเราสอบในย่านที่เราขับรถเป็นประจำคือดีที่สุดครับ เพราะมันเป็นเส้นทางที่เราขับตลอด เรารู้เส้นทาง รู้ marking ต่างๆ บนถนน รู้จุดที่ขับยากของย่านนี้ แล้วความคุ้นเคยมันจะทำให้เราตื่นเต้นน้อยลงด้วยครับ


-----

3) แล้วใบขับขี่ไทยขับรถที่ NSW ก็ได้แล้วทำไมถึงจะสอบละแอด??

หนึ่งเลยคือ อยากเช่า campervan ครับ 55 สองคือการมีใบขับขี่ NSW มันทำให้ทำงานบางประเภทง่ายขึ้นด้วยครับ สามคือมันเป็นจุดเริ่มต้นของการสอบใบขับขี่ประเภทอื่นด้วย สี่คือช่วยเรื่อง point test ตอนจะหาบ้านเช่าได้ด้วยครับ และสิ่งสุดท้ายคือ แอดเริ่มเบื่อกับการขับส่ง uberseats แล้ว อยากลองไปขับ uber ส่งคนบ้าง


-----

4) สอบที่ไหนดีสุด??

เมือง Sydney โดยเฉพาะย่านที่แอดอยู่นั้นขึ้นชื่อเรื่องการสอบ driving test ที่โหด หิน อัตราส่วนคนสอบผ่านน้อยที่สุดในบรรดาศูนย์สอบทั้งหมดของ Sydney (เอาง่ายสุดก็แนะนำ marrickville ครับ) แต่เห็นหลายคนที่ไม่ชินกับการขับรถในเมืองก็จะไปสอบนอกเมือง อย่าง Liverpool Hornsby หรือไป Saint Mary ทางฝั่ง Northwest เลยครับ


-----

5) สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสอบ driving test จนได้ NSW Full license

-ดวงสำคัญมาก


วันที่แอดไปสอบคิดว่าเลือกวันเวลาได้ดีที่สุดแล้ว คือ 10.00 วันพฤหัส ในสัปดาห์ที่อากาศดี แต่กลายเป็นว่าตอนสอบนั้นแอดเจอแต่รถที่ทำผิดกฎจราจรอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆที่ปกติก็แม่งไม่เคยเจอ 555 ทั้งตัดเข้าวงเวียนตอนที่แอดอยู่ในนั้น ทั้งฝ่าไฟแดง ทั้งเป็นทางรองแต่วิ่งมาโดยไม่เบรค ทั้งขับจี้แล้วตบไฟ ทั้งรถก่อสร้างริมถนน ทั้งเป็นวัน bin-day ที่มีถังขยะวางเต็มไปหมด ต้องคอยขับหลบไปมาตลอด


แต่ถ้าเรามองในแง่ดี สิ่งเหล่านี้มันคือ hazard (ภัย) ครับ ซึ่งคนคุมสอบเค้าจะดู response ที่เราตอบสนองต่อ hazard เหล่านี้ว่าเหมาะสมขนาดไหน และถ้าเราทำได้ถูกเราจะได้คะแนนในส่วนนี้ เลยกลายเป็นว่า แอดได้คะแนนจาก response to hazard ค่อนข้างเยอะครับ



-เวลาที่เลือกสอบ driving test ก็สำคัญ


อีกเหตุผลนึงที่คนตกกันเยอะคือ ขับเร็วเกิน speed limit ในย่าน school zone ครับ ซึ่งถ้าเป็นช่วงที่ active school zone เราจะขับได้ไม่เกิน 40 เท่านั้น รวมถึงในช่วงตอนเช้าและตอนเย็นในย่านโรงเรียนนั้นจะมีรถยนต์มารับส่งลูกเต็มไปหมด มีเด็กเดินข้ามถนน มีคนเดินตัดหน้าตลอดเวลา มีจอดถอยจอดและออกจาก kerbside ตลอด ถ้าเราไม่คุ้นเคยมีโอกาสเผลอเรอจนเสียคะแนนในตอนสอบได้ครับ


ดังนั้น ช่วงเวลาที่แนะนำในการสอบคือ 10.00 - 13.00 จันทร์-พฤหัสครับ เพราะวันศุกร์คน Sydney เลิกงานไว รถติดเร็วมาก



-ครูคุมสอบดูเราทุกรายละเอียดจริงๆ


เรียกได้ว่าสังเกตุกันตั้งแต่ก่อนสตาร์ท ยันกลับมาจอดที่ศูนย์สอบเลยครับ ดังนั้นเราควรศึกษาก่อนเลยว่าครูคุมสอบเค้าจะดูอะไรบ้าง โดยการสอบขับนั้นจะมีทั้งหมด 25 section ซึ่งรวมทั้งถนนแบบ Road, Street และ lane แล้วเค้าก็คอยดูว่าถนนแต่ละ section นั้นเราขับเป็นยังไง ตอบสนองต่อ hazard เป็นยังไง ซึ่งแอดว่าถ้าเราขับรถที่ออสฯอยู่แล้วไม่มีปัญหาครับ สิ่งที่น่ากังวลซึ่งชี้ชะตาได้เลยว่าเราจะผ่านหรือตกคือ response to hazard ครับ และตอนสอบจริงนั้นเราไม่รู้เลยว่าจะเจออะไรบ้าง อย่างแอดเจอทุกอย่าง มีเส้นนึงอยู่ๆ tradies สองคนแบกกระจกเดินข้ามถนนต้องรีบเบรคเลย 55


คำแนะนำเลยครับ ถ้าเจอ hazard ให้เรามองทุกครั้ง และถ้ามันจะมาหาเรา ให้รีบเบรคเลยครับ ถ้าเราตอบสนองไวครูคุมสอบจะให้คะแนนส่วนนี้ด้วย



-ต้องมีสติอยู่เสมอ


การสอบใช้เวลา 45 นาทีดังนั้นเรามีโอกาสหลุดได้เสมอครับ วิธีที่ดีคือสุดคือ คอยฟังว่าคนคุมสอบจะสั่งให้เราไปทางไหน จากนั้นตอบรับทวนคำสั่ง อย่างแอดจะพูด "OK" อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เรายังมีสมาธิอยู่ จากนั้นพอแอดทำตามคำสั่งแล้วแอดจะคิดต่อว่า คนคุมสอบฝึกจะสั่งให้ไปทางไหนอีก แล้วก็พูด "OK" ตอบรับ แล้วก็วนไปเรื่อย ๆเพื่อให้เราไม่เหม่อไม่หลุด แล้วถ้าถนนมันยาวๆ จนเราลืมคำสั่ง สามารถถามกลับได้ด้วย "please repeat"


-ไปเรียนกับครูฝึก จากนั้นมาฝึกเองให้เยอะที่สุดจนร่างกายจำได้แบบ Automatic


แอดบอกเลยว่า ถ้าแอดไม่ไปเรียนขับรถ แอดไม่มีทางสอบผ่านครับ เพราะการสอบ driving test มันไม่ใช่ขั้นตอนและพฤติกรรมปกติของการขับรถ 555 อันนี้พูดจริงๆ ดังนั้นการไปเรียนครูฝึกเค้าจะบอก route ที่ใช้สอบ บอกเทคนิคต่างๆ ท่าทางการขับ สิ่งที่ต้องทำ head check, hazard response คอยเน้นย้ำเราเรื่องกฎจราจรที่เป็น fail item ที่เราห้ามทำเด็ดขาด คอยบอกจุดที่ควรระวังของย่านที่เราสอบ


แอดเองไปเรียนมาสองรอบ รอบละ 1 ชม. โดยรอบแรกครูบอก route กับบอกเทคนิค ส่วนรอบ 2 เป็น mock test เสมือนจริงเลย จากนั้นถ้าแอดว่าง แอดจะขับ uber แถวบ้าน แล้วเลือกเฉพาะ order ที่ขับไปทางย่านที่เป็นเส้นทางสอบเพื่อจะได้สร้างความคุ้นเคยไปด้วย



-คุณมีโอกาสพลาดได้ ถ้าพลาดแล้วต้องปล่อยไป อย่าทำให้อนาคตเสียด้วย


แอดเป็นพวก perfectionist ครับ ตอนสอบ DKT ได้เต็ม อ่านเอกสารอะไรครบหมดทุกหน้า แต่พอตอนสอบขับมันก็มีพลาดกันได้ครับ สอบ driving test แอดสอบได้คะแนน 104/108 ครับ พลาด road positioning กับ decision making ไป โดยที่นึกออกเองคือ แอดเว้นระยะจากรถที่จอด kerb side น้อยเกินไป และแอดเลือกใช้วิธีการปล่อยคันเร่งตอนขึ้นเนินเพื่อชะลอเมื่อเจอ hazard ซึ่งจริงๆ วิธีที่ถูกต้องคือการเบรคครับ


แอดมาคุยกับครูสอบทีหลัง เค้าบอกว่า การปล่อยคันเร่งแปลว่าเราไม่ได้ควบคุมความเร็วรถ มันเป็นการขับที่มี risk เลยโดนหักคะแนนไป ... อันนี้ก็พึ่งมารู้ตอนสอบนี่ล่ะ เพราะแอดทำแบบนี้ประจำเพื่อประหยัดผ้าเบรค แต่การเป็นว่ามันเป็นวิธีที่ผิดเฉยเลย


และ ณ ตอนนั้นก็รู้ตัวครับว่าเราขับชิดรถที่จอดอยู่น้อยกว่า 1 เมตร ตอนนั้นรู้ว่าพลาดแล้วแต่ก็ต้องปล่อยไปครับ รีบมา focus กับคำสั่งต่อไปของครูคุมสอบดีกว่า ไม่งั้นเดี๋ยวพาเสียกันไปหมด



-อย่าขับเหมือนคนเก่ง ให้ขับเหมือนคนขี้กลัว 555


ถึงจะขับรถมา 10 กว่าปีจนคุ้นเคยแล้วแต่การสอบไม่ต้องรีบครับ ใช้เวลา ค่อยๆเลี้ยว ขับต่ำกว่า speed limit 10 km/hr ได้ครูไม่ว่า พอสอบ kerbside stop หรือ 3-point turn ก็ค่อยๆ ทำ take your time ครับ เพราะหลายๆ คนที่รีบ อยากทำให้จบๆ มักจะลืมทำ head check กัน ซึ่งถ้าเราลืมครบ 3 ครั้งเป็นอันจบเกมส์ครับสอบตก


รวมถึงถ้าขับรถอยู่ เห็นอะไรให้ตีเป็น hazard ให้มองไปก่อนเลยครับ เพราะถ้าเราเลือกไม่มองแต่มันเป็น hazard เราจะเสียคะแนนส่วนนี้ครับ เอาแค่พ่อแม่เข็น pram มาจอดท้ายรถที่จอด kerbside ถ้าเราไม่ response ไม่หันมองตอนที่รถเข็นลงมาถนน แล้วซวยไปเจอคนคุมสอบเข้มๆ หน่อย แค่นี้โดยหักคะแนนละครับ



-พยายามขับในย่านที่เราคุ้นเคย


เหตุผลคือ เพราะถนนแต่ละเส้นมี speed limit ไม่เท่ากัน อย่างที่ North Ryde จะมีถนนที่มี speed limit ต่างกันครับ

- Land cove rd. และ Epping rd. ขับได้ 70km/hr

- Balaclava rd. และ Wicks rd. ขับได้ 60km/hr พวกนี้เป็นถนน 4 เลน

- Industrial area และ residential area ขับได้ 50km/hr บางเส้น 2 เลน บางเส้น 4 เลนก็มี


การที่เรารู้จักถนนในย่านของตนเอง ทำให้แอดไม่เคยกังวลเรื่อง speed limit เลยครับ เรารู้ว่าเส้นไหนขับได้เท่าไหร่ มี roundabout ตรงไหนบ้าง มีเปลี่ยน traffic condition ตรงไหนบ้าง ตรงไหนมี merge lane ตรงไหนมี school zone ตรงไหนมี zebra crossing ตรงไหนมีป้าย stop sign ฯลฯ จะได้เอาเวลาไป focus คำสั่งผู้คุมสอบพอ 55



- วันก่อนสอบจริง ให้ออกไปขับตาม route อีกสัก 1 ชม.ครับ


ให้ใช้เวลานี้ review ทุกอย่างที่เรายังไม่ชัวร์ สำรวจเส้นทางอีกสักรอบ ลองจำลองสถานการณ์ด้วยตัวเอง ... รวมถึงใช้ช่วงนี้นี้สงบสติอารมณ์ ไม่ตระหนก ไม่กังวลเกินเหตุ ... เพราะแอดก็ใช้ช่วงเวลานี้ช่วยให้หายตื่นเต้นก่อนสอบได้ดีทีเดียวเลยครับ


-----

6.แนะนำเทคนิคที่ได้จากการไปเรียนขับรถ


วันที่ไปเรียนขับรถกับครู พอถึงเวลาที่นัดไว้ก็บอกกับครูเลยว่า

"I can drive but I have bad habits, please fix those thank you" 555


คือเราขับรถทุกวัน และขับ uber แถวบ้านด้วย เรื่อง road rules ป้ายต่างๆ เราไม่มีปัญหาเลยครับถ้าเป็นการขับรถปกติ เพราะครูก็บอกเลยว่า "Some habits you can do on daily basis, but not allow during the test" นี่ก็เลยได้บทเรียนหลายๆ อย่างมาไว้ใช้ฝึกก่อนที่จะไปสอบสัปดาห์หน้าละครับ เท่าที่ครูย้ำก้มีเรื่อง


- สองมือจับพวงมาลัยตลอดเวลา แอดชอบเผลอหมุนพวงมาลัยมือเดียวเป็นนิสัย แล้วก็ชอบหงายมือแล้วสาวพวงมาลัยด้วย ซึ่งครูเน้นเลยว่า ต้องคว่ำมือตลอดเวลา !! ต้องจับพวงมาลัยจากด้านนอก ห้ามหงายมือเพื่อไปจับด้านในพวงมาลัย โดยครูให้ปรับเป็นว่า ให้แอดถือพวงมาลัยตรง 3 และ 9 นาฬิกาเท่านั้น แล้วค่อยๆดึงพวงมาลัยถี่ๆ ห้ามสาวยาวๆ


- ให้แอดเว้นระยะจากเส้นประและเส้นทึบให้มากกว่าเดิม เพราะว่าแอดสูงแต่ครูสอบเราอาจจะเตี้ย ดังนั้นระยะเผื่อของเรากับของครูอาจจะไม่เท่ากัน ให้เผื่อจากเส้นที่เราเห็นมาอีกคืบนึง ก็จะอยู่ในระยะ 1-2 เมตรพอดี


- ป้าย stop ให้จอดชิดเส้นทึบ อย่าชิดป้าย ให้จอดสนิท 3 วินาที ทำ head check แล้วค่อยออกได้


- ถ้าต้องทำ 180 degree Head check เช่น พึ่งทำ kerb side stop มาแล้วต้องขับต่อ ให้เริ่มจากฝั่งที่เราไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว


- ถ้าเลี้ยวเข้าทางรอง (เช่น จาก road ไป street) ทำ head check แค่ฝั่งที่เราจะเลี้ยวเข้าซอยพอ

step หลักๆ ที่ใช้ตลอดคือ lower-middle-upper โดยที่

- low คือ gear

- middle คือไฟเลี้ยวและหมุนพวงมาลัย

- upper คือ head check 90 องศา / 180 องศา


จากนั้นภายใน 3 วินาทีต้องออกรถไม่งั้นต้องทำ head check ใหม่ โดยเทคนิคนี้คือใช้ได้ทั้ง kerbside stop , reverse parking และ 3-point turn เลยครับ


- 180 degree head check 5 ทิศ คือ shoulder > side mirror > rear mirror > side mirror > shoulder


ปกติจะมีการทดสอบ 3 ด่านคือ kerbside stop (จอดชิดข้างทาง) pararell reverse parking (ถอยหลังจอดชิดข้างทาง) และ 3-point turn (เลี้ยวกลับ 3 จังหวะ) เราจะโดนสุ่ม 2 ใน 3 ครูบอก kerbside stop นี่โดนชัวๆ ส่วนอีก 2 อัน reverse parking มีโอกาสโดนมากกว่า


----------

ครูที่แอดเลือกมาค่อนข้าง strict มากๆครับ แอดไปขับมาวันนี้เป็นครั้งที่ 2 (ครั้งสุดท้าย) ก็เก็บพวกที่แอดเคยพลาดๆ มาทั้งหมด จนจบแล้วครูพึ่งเฉลยว่า


"ที่ฝึกขับกันนี่คือ strict ที่สุดเท่าที่คนสอบจะโดนแล้ว ดังนั้นถ้ายูทำได้ตามที่ฝึกกัน ของจริงยูสบายมากเพราะง่ายกว่านี้เยอะ แถวยังพลาดได้ถึง 10% (ก็ประมาณ 3-5 ครั้ง) ถ้ายูไม่โดน fail item นะ (พวก speeding วิ่งทับเส้นทึบ ขับหลงทาง ไม่ขับตามสัญลักษณ์จราจร ไม่ให้คนข้ามถนน ฯลฯ)


เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ทุกคนครับ ยังพอมีเวลาเตรียมตัวฝึก เตรียมตัวสอบกันอยู่ครับ

Siam-Sydney Services Pty Ltd.

Phone / Whatsapp :    +61 426 921 316  Kittipol

                                    +61 433 419882  Racha

Email : siamsydneyservices@gmail.com

Line ID : @435odnwk

© 2025 Siam Sydney Services Pty Ltd Copyright
bottom of page