เรื่องควรรู้สำหรับคนที่กำลังจะย้ายมาอยู่ Sydney ช่วงนี้

ช่วงนี้แอดเห็นว่ามีทั้งวีซ่า Work and Holiday และนักเรียนที่กำลังจะมาเรียนต่อในช่วง intake รอบเดือน February 2025 ปีหน้ากันพอสมควรเลยครับ ยังไงก็ขอยินดีด้วยกับทุกคนนะครับที่วีซ่าผ่าน 555 การย้ายมาอยู่ต่างประเทศ เปลี่ยนเส้นทางชีวิต ได้เจอสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ มันทั้งน่าตื่นเต้นและน่าหวั่นใจเนาะ งั้นเรามาเตรียมตัวให้พร้อมกันดีกว่าครับ

1) การเตรียมเอกสารประจำตัวให้พร้อมก่อนเดินทาง - แอดแนะนำว่าเอกสารอย่าง Passport, visa grant เอกสาร COE ที่ปริ้นมา บัตร ID บัตรเครดิต travelcard ต่างๆ ควรใส่กระเป๋าสะพายพกติดตัวคู่กับมือถือเลยครับ อีกทั้งเอกสารเหล่านี้เราควรถ่ายรูปเก็บไว้ในมือถือใส่ album แยกต่างหาก หรือถ่ายสำเนาเก็บไว้ใน Cabin bag/ luggage ใส่ซองในจุดที่หยิบง่าย เพราะการเดินทางมาครั้งแรก มีโอกาสโดน จนท. immi ถามข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตนอยู่แล่ว และเมื่อถึงเวลาจริงเราจะลนอยู่แล้วแหละ ดังนั้น จัดเอกสารสำคัญแยกไว้เฉพาะให้หยิบง่ายจะทำให้เราผ่านด่านตรวจคนได้อย่างไม่ต้องกังวลครับ ปล. สนามบิน Sydney มี Internet ฟรีครับลงจากเครื่องเข้าตึกมาก็ใช้ได้เลย

2) กระเป๋าเดินทาง ถ้าเรามาคนเดียวไม่มีคนมาส่งแนะนำให้มีแค่ Luggage ใบใหญ่ 30 kgs + กระเป๋าสะพายหลัง + กระเป๋าใส่มือถือใส่เอกสาร รวมทั้งสิ้น 3 ใบพอครับ อันนี้จากประสบการณ์ที่รับส่งสนามบินมา นักเรียนหลายคนที่เดินทางมาเองจะมีสัมภาระเพียงเท่านี้ และบอกว่าต้องการความสะดวกสบาย คล่องตัว ของเยอะกลัวลืม 555 และตัวนักเรียนนั้นสามารถส่งของมาเพิ่มเติมทีหลังได้กับบริษัทรับส่งของคนไทยหลากหลายเจ้า เช่น sabuy express หรือ AAS

3) เปิดเบอร์มือถือที่สนามบิน แนะนำให้เปิดรายเดือน เผื่อเราจะใช้ใบ invoice ค่ามือถือรายเดือนเพื่อการยืนยันตัวตนหรือสมัครบริการต่างๆ ในอนาคต จากนั้นเมื่อเราได้เบอร์มือถือแล้วเราก็จะสามารถไปเปิดบัญชีธนาคารของที่นี่ได้ด้วยครับ ธนาคารส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการเปิดบัญชีให้กับนักเรียนต่างชาติอยู่แล้ว ดังนั้นเค้าจะช่วยเหลือเราได้อย่างแน่นอน ส่วนเอกสารที่ใช้ก็เอกสารตามที่เราเตรียมแล้วเลยครับ ทั้ง passport, visa grant, COE ฯลฯ

4) การหาบ้านเช่า จริงๆ แนะนำว่าช่วงแรก ตีไว้ 2 อาทิตย์แล้วกัน อาจจะลองจองโรงแรมที่ราคาไม่แพงมาก พวก hostel หรือ dormitorium มาก่อนก็ได้ จากนั้นเราถึงค่อยย้ายเข้าที่พัก ส่วนที่พักนั้นแล้วแต่ความสามารถในการจ่ายของแต่ละคนจริงๆ ครับ บางคนก็สามารถหาบ้านแชร์ ได้ห้องเดี่ยว หรือเช่า apartment อยู่เองทั้งหลัง หรือเลือกพักกับ host หรือหา student accommodation ที่เป็นหอพักขนาดเล็กราคาไม่แพงมาก (เท่าที่เคยไป inspect มาก็ $400-600) แต่ถ้าพวก iglo นี่ไฮโซครับ ส่วนถ้าเป็นที่ Sydney ช่วงนี้ ห้องแชร์เริ่มต้นกันที่ $250 ก็มีครับ ถ้าอยากได้แชร์บ้านแต่มีห้องเป็นของตัวเอง ก็จะอยู่กัน $400 ขึ้นไป และถ้าอยาก sign เองทั้งหลัง อันนี้ต้องเงินถุงเงินถังหน่อย

แอดเคยเขียนสรุปการ sign บ้านเองไปแล้ว โดยคร่าวๆ คือ การสมัครขอเช่าบ้านที่นี่จะใช้ระบบ point-test ขั้นต่ำ 100 แต้ม ถ้าเรายังไม่ได้งานนั้น การ sign บ้านเองต้องใส่เงินไว้แทบจะ 100% ของค่าเช่าทั้งปีเลย แต่ถ้าเรามี job offer แล้วนั้น เราอาจสามารถใส่เงินใน statement ให้เท่ากับค่าเช่า 6 เดือนก็ได้ แล้วไปอาศัยการเขียนจดหมาย recommendation letter จากนายจ้างหรือคนที่เป็น PR/citizen เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือแทน

5. website ทั้งหาบ้านหางานแนะนำ facebook group รับจบครับ ทั้งคนไทยซิดนีย์ (รูปprofileสีชมพู) และบ้านคนไทยในซิดนีย์ (รูปสีน้ำเงิน) แค่ 2 เพจนี้เอาอยู่ครับหาได้ทั้งบ้าน งาน ขายของ (หนักไปทางนี้ 55) หารถมือสองก็ยังได้ หรือเราจะลองไปเดินตามย่านการค้า suburb ที่เจริญๆ มีร้านค้ามีคนอยู่อาศัยเยอะก็ได้ครับ บางร้านจะแปะป้ายรับสมัครไว้หน้าร้านเลย

6. ย่านที่แนะนำทั้งเรื่องหางาน และหาบ้านนะครับ ถ้านอกเหนือจาก Thaitown และ Haymarket ก็จะมีย่านอย่าง Chatswood, Burwood, Strathfield, Parramatta, Bankstown, Rockdale, Hurstville, Newton, Surry hills, Marrickville, Mascot ลองไล่ๆดูครับว่าเราถูกจริตโซนไหน

7) พวกธุรกิจต่างๆ ที่คนไทยใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านเหล้า ร้านแลกเงิน สำนักบัญชี เสริมสวย ร้านมือถือ หรือบริการอย่าง ครูสอนขับรถ รับติว ielts ที่ Thaitown และในกรุ๊ปบ้านคนไทยมีหมดครับ อีกทั้งหลายๆ ธุรกิจตอนนี้ก็เปิด page ร้านค้าของตัวเองแล้ว เราคนไทยย้ายมาใหม่ๆ แอดบอกเลยว่าซิดนีย์คือเมืองที่ตั้งตัวง่ายที่สุดแล้ว แทบไม่ต้องปรับตัวอะไรมากมาย มีบริการทุกอย่างสำหรับคนไทย ในราคาที่เหมาะสมกับค่าครองชีพ

 ค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ถ้ามาคนเดียว แอดให้ค่ากิน $100/wk ค่าบ้าน $300/wk ค่าจิปาถะอื่นๆ $100 ถ้าเอาให้พออยู่ได้ควรมีรายได้ประมาณ $500 ขึ้นไป และถ้าเราทำงานได้รายได้ขั้นต่ำที่ $24/hr แปลว่าเราต้องทำงาน 20 hr/wk พอดีเป๊ะ ซึ่งก็พอดีแบบไม่มีเงินเก็บหรือไม่ก็ต้องเข้าเนื้อด้วยครับ ดังนั้นอาจต้องมีเงินสำรองมาจากไทยหน่อยสำหรับช่วงตั้งตัวแรก พอเราเริ่มหางานได้ ปรับตัวได้ รู้ว่าตรงไหนของถูก รายจ่ายไหนควบคุมให้ประหยัดได้ แอดว่าจากนั้นเราก็จะพอปรับตัวได้ครับ ส่วนคนไหนถ้าทำงานจ่ายค่าเรียนเองด้วย แอดว่าเหนื่อยครับ ต้องหาคนแชร์ หาแฟนหาผัวที่นี่ ค่าใช้จ่ายจะหารสองทันทีอย่างรวดเร็ว (พูดจริง)

9) ถ้ามาช่วงนี้คือช่วงเข้า Summer ซึ่งเป็นช่วงที่พึ่งพ้นหน้าหนาว คนจะเริ่มออกมาจับจ่ายใช้สอย ซื้อของกินของใช้ เตรียมตัวหยุดยาวกันช่วงปีใหม่ หลายๆ uni จะปิดเทอมกันตั้งแต่ พ.ย.- ก.พ. ดังนั้นบรรยากาศจะครื้นเครง ธุรกิจที่บูมขึ้นจะต้องการแรงงานเพิ่ม ทำให้มีโอกาสหางานได้ง่ายขึ้นครับ แต่ว่าก็จะมีการแข่งขันที่สูงขึ้นเพราะนักศึกษาหลายคนที่ปิดเทอมช่วงนี้ก็จะสามารถทำงาน fulltime ได้เหมือนกัน อีกทั้งช่วงนี้ คนที่ถือ work and holiday visa ก็เริ่มทยอยเข้าออสเตรเลียมาแล้วเหมือนกัน

.

คร่าวๆ เพียงเท่านี้ครับ สุดท้ายนี้แวะไปดูรวมโพสในหน้าปักหมุดของเพจได้นะครับ มีข้อมูลทุกอย่างที่ต้องการในการอาศัยอยู่ที่นี่แน่นอน เผื่อใครที่กำลังจะย้ายเข้ามาอยู่ออสเตรเลียในช่วงนี้หรือต้นปีหน้ากันจะได้พอรู้บรรยากาศคร่าวๆ กับสิ่งที่ต้องเตรียมตัวกันก่อนที่จะย้ายมา #คนไทยในต่างแดน #คนไทยในออสเตรเลีย #ทีมออสเตรเลีย #travelrouteinsydney #ออสเตรเลีย #คนไทยในซิดนีย์ #เรียนต่อออสเตรเลีย #เรียนภาษา #เรียนต่อปริญญาโท