เที่ยว Brisbane กันครับ
- namchasang .
- Nov 27, 2024
- 2 min read
Updated: Oct 31

——-
1) บินง่ายๆ แปบเดียวถึง
ทริปนี้เราเดินทางกันด้วยสายการบิน Qantas ครับ ใช้เวลาเดินทางกันประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเพียงเท่านั้นก็จะถึงสนามบิน Brisbane แล้ว สำหรับคนที่เดินทางพร้อมกับเด็กเล็กนั้น สายการบินส่วนใหญ่นอกเหนือจากกระเป๋าแล้ว เราจะสามารถโหลดของเราได้ฟรีอีก 2 อย่าง คือรถเข็น และ car seat ครับ พอเราถึง Brisbane แล้ว เราสามารถนั่งรถไฟเข้าเมืองเหมือนอย่าง Sydney แต่ทริปนี้แอดไปพักที่บ้านเพื่อนที่อยู่ทางนอกเมือง เพื่อนก็เลยมารับที่สนามบินแทน
-----
2) Christmas party
เราได้รับการเชิญชวนจากเพื่อนที่ Brisbane ให้มาฉลองคริสต์มาสด้วยกัน ในงานนี้นอกเหนือจากครอบครัวของเพื่อนแล้ว เราได้มีโอกาสรู้จักครอบครัวคนไทยอีกบ้านนึงที่มีลูกเล็กเหมือนกันด้วย ปาร์ตี้คริสต์มาสนั้นแต่ละครอบครัวก็จะ BYO (bring your own) หอบหิ้วและอาหารเครื่องดื่มมาร่วมวงแชร์กัน มีการฉีก bonbon (คล้ายๆกล่องของขวัญทรงลูกอมยักษ์ มีของขวัญชิ้นเล็กๆ ข้างใน) มีกินอาหารร่วมกัน กิน christmas ham อาหารหวาน พูดคุยสังสรรค์ ก่อนจบท้ายด้วยการนั่งล้อมวงมอบของขวัญและแกะของขวัญกัน
-----
3) เที่ยวสวนสัตว์กัน
ทริปนี้เราได้มีโอกาสไป Australia Zoo ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของ Brisbane ประมาณครึ่งชั่วโมง ที่นี่เป็นสวนสัตว์ของ Steve Irwin วีรบุรุษของชาว Aussie ที่มีชื่อเสียงในฐานะพิธีกรสารคดีเกี่ยวกับสัตว์และนักอนุรักษ์ชื่อดังของโลก สวนสัตว์มีขนาดใหญ่มากต้องใช้เวลาทั้งวันในการเดินถึงจะครบหมด ที่นี่รวบรวมสัตว์ต่างๆ ทั้งสัตว์ท้องถิ่นจากบริสเบนเอง ของออสเตรเลีย และของเอเชียเช่น ช้างและเสือ รวมถึงที่นี่มีโซนที่เราสามารถไปลูบไปถ่ายรูปกับ Joey (จิงโจ้เด็ก) ได้ด้วย อันนี้ดีกว่าฝั่ง Sydney ตรง Featherdale เยอะเลยครับ ส่วน highlight จริงๆ ของที่นี่คือการแสดงโชว์สัตว์ต่างๆ ซึ่งมีทั้งโชว์นกสายพันธุ์ต่างๆ และโชว์จระเข้ เป็นอีก 1 ที่ที่ถ้ามีโอกาสแนะนำให้มากันครับ
-----
4) powered by EV
ทริปนี้เราเดินทางกันด้วย Tesla 3 กันตลอดทุกวันเลยครับ โดยเฉพาะแอดแม่เองที่สนใจรถ EV อย่าง Tesla อยู่แล้วด้วยนั้นก็ได้มีโอกาสได้ลองได้สัมผัส ได้ user review กันเต็มๆ ทั้ง 3 วันเลย ครับ อย่างบ้านเพื่อนของแอดนั้นเค้าใช้ไฟฟ้าจาก solar เป็นหลัก เปิดแอร์ทั้งวัน ชาร์ตรถที่บ้านแบบ AC ไปด้วย ดังนั้นแปลว่าการใช้รถ EV ของคนที่มีบ้านนั้นมันตอบโจทย์เป็นอย่างมากเพราะได้ใช้ไฟฟรีไปในตัวด้วย ก่อนนอนก็ชาร์ต ตื่นมาก็ใช้รถได้เลย ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำมันกันเลยทีเดียว
อย่างเรามาจาก Sydney ซึ่งเป็นเมืองที่คนใช้รถ EV เยอะ มีสถานีชาร์ตกระจายอยู่ทั่วทั้งเมือง แต่สำหรับ Brisbane นั้นไม่ได้มีคนใช้รถไฟฟ้าเยอะขนาดนั้น ทำให้โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ก็ไม่ได้ครอบคลุมเท่า สถานที่ชาร์ตในเมืองมีน้อย หากมาในช่วงเวลาเร่งด่วนหรือเทศกาลอาจต้องต่อคิวรอชาร์ต และหลายที่ต้องเสียค่าจอดรถเพิ่มจากค่าชาร์ตรถมาอีกด้วย ดังนั้นถ้าอยากใช้รถ EV เราเองอาจต้องปรับพฤติกรรมส่วนตัวของเราให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานของรถด้วย
-----
5) ขนส่งสาธารณะ
เนื่องจากแอดอยู่แถวๆ Ipswich ที่เป็นเมืองบ้านนอกทางตะวันตกเฉียงใต้ของ Brisbane ทำให้มีโอกาสได้ลองนั่งรถไฟเข้าเมือง-กลับบ้าน ดูครับ เท่าที่ลองมา รถไฟ Brisbane และรถเมล์ ก็ครอบคลุมย่านต่างๆ เดินทางสะดวก สะอาดและมีมาตรฐานไม่ต่างกับ Sydney ครับ ราคาก็พอๆกัน ถ้าเป็นสถานีที่เป็น Hub ก็จะมี P+R หรือ park and ride ให้เรามาจอดรถและนั่งรถไฟต่อเข้าเมืองได้ด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่รู้สึกว่ายังเป็นข้อด้อยของที่นี่ คือเราจำเป็นต้องซื้อบัตร Gocard ซึ่งคล้ายๆกับ Opal ของ Sydney เรา เพราะว่าขนส่งสาธารณะที่นี่ใช้ apple pay หรือพวกบัตร visa/mastercard ไม่ได้อ้ะ !!! ฝั่ง Goldcoast tram เค้ายังใช้ได้เลยนะเฮ้ย 555
-----
6) Train Museum
รถไฟคือหัวใจหลักของชีวิตและผู้คนของ Australia ครับ ทำให้ที่นี่ให้ความสำคัญในการอนุรักษ์ การเก็บรักษาองค์ความรู้ต่างๆ และถ่ายทอดให้กับผู้คนและเด็กยุคใหม่ได้เรียนรู้จากพิพิธภัณฑ์รถไฟที่มีอยู่แทบทุกเมืองใหญ่ๆ ของประเทศนี้ครับ
แอด Cooper คือ Train geek ของแทร้ ชอบมาก ชอบรถไฟ ชอบดูชอบมอง อย่างตอนอยู่ Sydney ถ้าไม่เข้าไป powerhouse museum ก็คือจะพาเค้าไปนั่งที่ Central station ดูรถไฟประเภทต่างๆ ที่เค้าชอบ นั่งอยู่ตรงนั้นได้เป็นชั่วโมงอะครับ 55 จนแอดแม่เลิกงานถึงค่อยพากลับ อย่างของที่ Ipswich Train Museum ที่ได้มานั้นก็ถือว่าเป็นที่ๆใหญ่ เทียบกับของที่ Sydney ได้เลย เพราะเป็นทั้งโรงผลิตและศูนย์ซ่อมบำรุงเหมือนกัน ที่นี่มีจะโซนที่แบ่งตามวัยชัดเจน ทั้งโซนเด็กที่มีรถไฟไม้ให้เล่น โซนโตมาหน่อยมีรถไฟ miniature ให้นั่ง หรือจะเป็นโซนเด็กโตเลยที่มีการทำห้องจำลองคล้ายๆ cockpit ของรถไฟ XPT ที่เป็นรถไฟความเร็วสูง (แล้ว) ของที่นี่ซึ่งวิ่งเส้นทาง Sydney-Brisbane ด้วยเวลาประมาณ 13 ชม. ครับ
เด็กบ้านไหนชอบรถไฟแวะมาได้เลยครับไม่ผิดหวัง และอย่าแวะเข้าคาเฟ่นะในนั้นมีแต่ของเล่นเด็กขายเต็มไปหมด 555
-----
7) Brisbane CBD & Southbank
ย่านที่เป็นโซนท่องเที่ยวรวมถึงตัวเมืองของ Brisbane นั้นไม่ได้ใหญ่มากครับ โดยแอดแบ่งเป็น 3 ย่านง่ายๆ คือ
- CBD ตรงนี้ย่านร้านค้าซึ่งจะตั้งอยู่ในพื้นที่ของถนน 4 เส้นที่เป็นชื่อผู้หญิงคือ Adelaide st., Queen st, Elizabeth st. และ Mary st. ตัดกับถนนที่เป็นชื่อผู้ชายอีก 4 เส้นคือ William st, George st, Albert st และ Edward st.
- Fortitude Valley ย่านกลางคืน ผับ บาร์ และร้านอาหารเอเชียครับ ตอนแอดไปก็แวะมาซื้อของกินไทยๆ หมูแผ่นเจ้าสัว หมูหยอง ที่ร้าน the valley ตรงนี้นี่ล่ะ
- South Brisbane (west end, Southbank) ฝั่ง west end มีร้านอาหารอร่อยๆเยอะแยะเลยครับ และตรงนี้มี southbank parkland ซึ่งเป็นสวนสาธารณะริมแม่น้ำ มีจุดถ่ายรูปที่เห็นวิวเมืองฝั่ง CBD ที่สวยงาม มีสนามเด็กเล่นของเด็ก ร้านอาหาร และหาดทรายเทียมทะเลเทียมที่ดีมากๆ ครับ เหมาะสำหรับคนทุกกลุ่มมานั่งพักผ่อนกัน พ่อแม่มาปิคนิค พาลูกมาเล่นน้ำ ตกเย็นเดินเลียบไปตาม Brisbane river หรือจะนั่งเรือฟรีอย่าง cityhopper เพื่อดูวิวแม่น้ำก็ยังได่ เป็นอีกหนึ่งที่ที่ห้ามพลาดครับ
ถ้าเพื่อนๆ ที่พึ่งมาเที่ยวใหม่ๆ หรือมีเวลาไม่มาก แอดแนะนำให้ไป 3 ย่านนี้ก่อนก็พอครับ
-----
8.) Thai food
คนไทยอย่างเราไปที่ไหนต้องมีอาหารไทยครับ และ Brisbane นั้นไม่ใช่เมืองที่มีขนาดใหญ่มาก ทำให้ไม่มี Thaitown หรือย่านไทยแบบ sydney ที่เราคุ้นเคยครับ แต่เพื่อนก็ได้แนะนำให้ไปลองกินร้านไทยร้านนึงบนถนน Elizabeth st อย่างร้าน Pochana
ร้านนี้ถ้าเทียบกับฝั่ง Sydney อารมณ์คล้ายๆ Satangthai Infinity หรือโชว์เหนือครับ คือกลางวันเป็นร้านอาหาร กลางคืนมีดนตรีสด มีโซนบาร์ มีมุมถ่ายรูป เป็นศูนย์รวมของคนไทยพลัดถิ่น (ศัพท์วิชาการ 55) ในเมือง Brisbane ซึ่งอาหารอร่อย บรรยากาศดี มีของตกแต่งร้านจากเมืองไทย แอดเลยไม่แปลกใจครับที่ร้านนี้จะมีคะแนนรีวิวดีมาก
ส่วนถ้าอยากจะไปร้านของชำแบบไทยๆ ร้านไทยอื่นๆ เราสามารถไปได้ที่ย่าน Fortitude Valley ซึ่งนั่งรถเมล์มาจากตัวเมืองประมาณ 5 นาทีครับ หรือถ้าอยู่ทางตอนใต้นอกเมืองอย่างแอด ขับรถไป Sunnybank ได้ครับ เป็นแหล่งรวมร้านเอเชีย ชุมชนเอเชียที่ใหญ่มากๆ ให้เทียบก็อารมณ์คล้ายๆ กับ Burwood, Eastwood ครับ วันก่อนกลับไปกินต้มซุปเปอร์กับเพื่อนตอน 21.30 ร้านยังเปิดอะคิดดูแล้วกัน 55
-----
9) ราคาบ้าน
หลายๆ คนอยากย้ายมา Brisbane จาก Sydney ก็เพราะเรื่องราคาบ้านนี่ละครับ ซึ่งตลอดทั้งทริปนี้แอดก็ได้คุยเรื่องบ้านมาก็ไม่น้อยครับ เลยขอแชร์ให้ฟังประมาณนี้แล้วกันครับ
- พี่คนไทยคนนึง ซื้อบ้านย่าน Northgate (ฝั่งสนามบิน Brisbane) มาในราคาประมาณ 800k กว่าๆ เป็นบ้านเดี่ยว สภาพดี ขนาด 3 ห้องนอน บ้านมีพื้นที่ มี backyard ส่วน apartment เดิมที่พี่เค้าเคยอยู่ในย่าน southbank ตอนนี้ก็ปล่อยให้เช่าประมาณ 650/week
- เพื่อนแอดเอง ซื้อ land offplan ในย่าน springfield เมื่อปี 2019 มาในราคาไม่ถึง 300k รวมปลูกบ้านแล้วตีกลมๆไป 600k ผ่านไป 4 ปี แค่ land อย่างเดียวตอนนี้ 500k ++
ถ้าเป็นบ้านในระยะ 10 นาทีจาก Brisbane CBD ราคาตอนนี้อยู่กันไม่ต่ำกว่า 1 M แต่ถ้ายิ่งห่างออกมาก็ยังพอหาบ้านราคา 600-800k ได้ ซึ่งราคาแบบนี้ที่ Sydney ที่นึกออกคือ Auburn ครับ ได้ cottage เล็กๆ 1 หลัง หรือไปทาง blacktown ซึ่งก็เป็นย่านที่ไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่ หรือไม่ก็ต้องออกไปไกลๆ เลยอย่าง Rouse Hill ถึงจะพอหาบ้านเดี่ยวในงบต่ำกว่า 1M ได้
-----
สรุปแล้วทริปนี้ได้รู้จัก Brisbane ขึ้นเยอะเลยครับ เพราะได้มีโอกาสอยู่กับ Queenslander และได้พูดคุยกับคนไทยหลายๆ คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ ซึ่ง Brisbane ที่แอดคิดไว้ กับที่ได้มาเจอจริงๆ ก็ไม่ค่อยเหมือนกันซักเท่าไหร่ มีทั้งมุมที่ชอบและมุมที่ไม่ชอบ แต่สุดท้ายนี้ถามว่ายังอยากย้ายมาอยู่ไม๊?? ก็ตอบได้เลยครับว่า ไม่ 5555 แต่อาจจะย้ายไปอยู่ Gold Coast แทนครับ ... แต่เพราะเหตุผลอะไรที่ทำให้คิดแบบนั้น เดี๋ยว post หน้าแอดพาไปเที่ยว Gold Coast กันต่อเลยครับ




