หางาน ep.2 : มาทำ CV ไปด้วยกันครับ
- namchasang .
- Nov 26, 2024
- 3 min read
----------
ช่วงนี้แอดมีโอกาสได้เห็น CV ของนักเรียนไทยตามเพจหางานของทั้ง Sydney และ Melbourne บ่อยขึ้นเยอะเลยครับ สงสัยคนไทยจะเริ่มเดินทางกันมาเยอะเลยนะครับเนี่ย ซึ่ง CV ที่ได้ผ่านตามาก็มีทั้งที่ทำมากระชับอ่านเข้าใจง่ายดี แต่ก็มีไม่น้อยที่ยังมีจุดให้ปรับปรุงได้อีก
CV หรือ Resume ที่เรารู้จักกันเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก ถ้า passport คือเอกสารที่ใช้เดินทางระหว่างประเทศ CV ก็เปรียบเสมือนเอกสารสรุปข้อมูลสำคัญ ประวัติ ประสบการณ์ทำงาน ทักษะและความสามารถต่างๆ ที่เรามี เพื่อให้นายจ้างพิจารณาว่า คุณสมบัติของเรา (Qualification) ที่อธิบายไปใน CV นั้น ตรงกับลักษณะงาน (Job Description: JD) และหน้าที่งาน (Task) ที่ร้านนั้นๆ กำลังหาคนหรือไม่
แอดเองหลังจากที่อกหักมาจากการสมัครงานรอบแรกแล้วก็มานั่งวิจารณ์ตัวเองจนรู้ว่ามีหลายสิ่งที่เราทำพลาดไป อาทิ
- เขียนทุกอย่างที่เรารู้ มี เป็น อยู่ คือ อธิบายไปหมดเลยทั้งที่เกี่ยวกับงาน และไม่เกี่ยวกับงานก็ใส่ไปหมด
- เขียนให้กลางๆ ที่สุดเพราะคิดว่าจะได้ใช้ CV อันเดียวสมัครงานในหลายๆสาขาที่เราอยากทำ (แอดสนใจทั้งสาย HR, IT, Counselling)
- ไม่รู้จักการเล่นกับ Keyword ที่สำคัญของตำแหน่งงานนั้นๆ ที่เราสมัคร
จริงๆมีอีกเยอะครับ คือตัวแอดเองเนี่ยตอนอยู่ไทยก็พอมีประสบการณ์บ้างเลยคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ที่จะแชร์เรื่องนี้ให้ น้องๆ เพื่อนๆ พี่ๆ ให้พอเข้าใจถึงความสำคัญของ CV และนำไปปรับใช้ในการกับตัวเอง เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้งานในอนาคตได้
ซึ่งพอแอดลองปรับ CV รอบใหม่เป็น Version iOS ใหม่แล้ว 55 ก็ลองยื่นไป 10 ที่ ก็ได้การตอบรับและนัดคุยกลับมาหลายที่เลยครับ...แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้เลือกทำสักที่นะครับเพราะตำแหน่งที่ได้มายังไม่ตรงกับความต้องการของตัวเองอยู่
----------
CV มีกี่รูปแบบ ??
ในตำราของแอดเอง CV แบ่งเป็น 3 format ครับ
โดยการทำ CV เราต้องเริ่มต้นอย่างไร หรือมีรูปแบบ format แบบไหน วิธีการเลือกใช้แตกต่างกันอย่างไร มาเริ่มไปด้วยกันครับ มา !!!!
----------
1) Chronological CV
เป็น CV รูปแบบพื้นฐานที่จะเรียงข้อมูลตามอาชีพและประสบการณ์ทำงานของเราจากใหม่-ไปหาเก่า ส่วนใหญ่จะใช้กับการสมัครงานสาย Professional ในสายอาชีพเดิม หรือในตำแหน่งที่สูงขึ้น (เช่นจาก HR officer เป็น senior HR officer)
CV รูปแบบนี้จะไม่เน้นโชว์ skills ติดตัวของเรา เพราะว่า วุฒิการศึกษาและประสบการณ์ทำงานของเรานั้นให้ข้อมูลเพียงพอที่จะทำให้นายจ้างรู้ว่าเราได้ skills อะไรติดตัวแล้วบ้าง (แล้วไปค้นหากันตอนสัมภาษณ์อีกที)
ตำแหน่งงานที่สมัครด้วย CV รูปแบบนี้ได้ก็ครอบคลุมตั้งแต่ Entry level - Mid level ครับ แต่อาจจะเหมาะกับงานที่เป็น technical, academic area ที่เป็นงานแบบ Research หรือ project-based มากกว่างานสาย professional ทั่วไป
----------
2) Functional CV
CV รูปแบบนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการย้ายงาน (Career changer) มีช่วงพักงาน (Gap year) หรือเด็กจบใหม่ (Fresh Graduate) ที่เราไม่มีประวัติการทำงานที่ตรงกับตำแหน่งงานที่อยากสมัคร เราเลยไม่มีประสบการณ์ทำงานในวิชาชีพนั้นๆ เพียงพอที่จะเอามาโชว์ใน CV ได้มากนัก
ดังนั้นสิ่งที่เราจะโชว์คือ skill ต่างๆ ที่เราได้เรียนรู้มาจากประสบการณ์อื่นในชีวิต การเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ (Extracurricular) งานอดิเรก (Hobby) การเรียนหลักสูตร certificate การเข้า bootcamp การทำ volunteer ฯลฯ
หลักการคือ กิจกรรมทุกอย่างที่เราทำ เราจะได้เรียนรู้ทั้งความรู้ (knowledge) และทักษะต่างๆ (Skills) จากการได้ทดลองทำ ได้ฝึกฝนจนชำนาญอยู่แล้ว ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการมาสามารถนำมาใส่ใน CV ประเภทนี้ได้ ส่วนใหญ่สิ่งที่เราจะใส่ใน CV กันจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ
1) Work skills
2) Transferable skills หรือ soft skills ต่างๆ
ในมุมของนายจ้างนั้นย่อมอยากได้คนที่มี skills ที่พร้อมทำงานได้ทันที มาสอนมาลองงานกันนิดหน่อยไม่เกิน 2 ชม. ก็พร้อมทำงานเลย ซึ่งทั้ง skills และ soft skills ต่างสำคัญเท่ากัน
แต่ !!! ถ้านายจ้างมีคนสมัคร 2 คนที่ work skills เท่ากัน ตัวตัดสินก็จะเป็น soft skills ซึ่งสร้างยากกว่าเพราะ soft skills ของแต่ละคนจะมีติดตัวไม่เหมือนกันตามพื้นฐานนิสัยและบุคลิกภาพของแต่ละคน
ตำแหน่งงานที่สมัครด้วย CV แบบนี้ได้แนะนำเป็นงานกลุ่ม Hospitality และกลุ่ม trade ที่เป็นงานใช้แรงงานครับ หรืองานระดับเริ่มต้น Entry level เป็นหลัก
----------
3) Combination CV
CV รูปแบบนี้เป็นที่นิยมมากที่สุด เพราะแสดงข้อมูลทั้ง การศึกษา ประสบการณ์ทำงาน และ skills ที่เรามีทั้งหมด โดยให้ความสำคัญของข้อมูลทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน
CV รูปแบบนี้ เหมาะกับคนที่มีประสบการณ์ในการทำงานมาแล้ว และต้องการนำเสนอว่า นอกจากการศึกษาและประสบการณ์ทำงานแล้ว ตัวเรามีจุดเด่น เอกลักษณ์ คุณสมบัติที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้นเพิ่มมาอีกด้วยนะ
เราจะได้โชว์ทั้ง Work skills และ Soft skills ที่เรามี ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้เรามากขึ้นด้วย
ตำแหน่งงานที่สมัครด้วย CV แบบนี้ได้เกือบทุกรูปแบบเลยครับ ทั้งสาย Professional, Hospitality และสาย Trade ตั้งแต่ entry level เป็นหลัก จนไปถึงระดับบริหารก็ยังได้
----------
4. ลำดับการเรียงข้อมูลของ CV
ทั้ง 3 format เราเรียงลำดับข้อมูลคล้ายๆกัน ดังนี้
- Summary / Career objective
- Profile / Contact Info
- Skills
- Education / Certificate
- Work experience
- Extracurricular
- Reference
---------
5. ยังไม่แน่ใจว่าจะใช้ CV แบบไหนดี ?? ลองตอบคำถาม 4 ข้อนี้ก่อนครับ
1) ในอดีต เรามีประสบการณ์ทำงานมาก่อน หรือจากกิจกรรมต่างๆ ที่สามารถนำมาใช้กับงานที่มีไม๊
2) งานที่เราจะสมัครในอนาคต เรามีประสบการณ์มาก่อนไม๊
3) ประวัติของเรา เคยย้ายสายงาน หรือมี gap year มาก่อนไม๊
4) เราอยากให้ CV เราโชว์ทั้ง skill และ work experience ไม๊
ถ้าเราตอบใช่ 3-4 ข้อ แนะนำให้ใช้ CV แบบ combination ครับ
ถ้าเราตอบใช่ 1-2 ข้อ เราอาจเหมาะกับ CV แบบ functional มากกว่าครับ
----------
5. สมัครงานที่ออสใช้ CV แบบไหนกัน ??
ส่วนใหญ่ที่เห็นผ่านตามาจะใช้แบบ 3 กันหมดเลยครับ จึงนำตัวอย่างจากเพจต่างๆ มาให้ดูกัน
1) CV ของ Chapter One Education
2) CV ของ Big Sister เวปไซต์เรื่องราวเด็กนอก
3) CV ของ Beyondstudy (Thaiwahclub)
4) Functional CV ตัวอย่างจาก recruiteThaiwahclubhttp://u.hudson.com/.../resume.../functional-resume-example/
CV 3 แบบแรก คือเหมาะสำหรับคนที่มีประสบการณ์ทำงานหลังจากเรียนจบแล้ว ซึ่งจะเน้นการโชว์ประสบการณ์ทำงาน และดึง keyword ที่ได้จากประสบการณ์ทำงานออกมาเพื่อให้นายจ้างสังเกตุเห็น skills ที่ตัวเรามีอยู่ได้ง่ายขึ้น
ถ้าสมัครงานสาย professional ใช้ CV ของคุณอลิสกับคุณเชคุณออยแห่ง Big sister ก็อธิบายครอบคลุมประสบการณ์ในชีวิตและ skills ติดตัวของเราได้ละเอียดครับ
ถ้าสมัครงานสาย hospitality และพอมี skills มาบ้างแล้วนิดหน่อย เราเลือกใช้ CV meowmeow แบบของ beyondstudy ก็ดูเข้าใจง่ายและตรงประเด็นดีครับ
แต่ถ้าเราเองเป็นกลุ่มที่พึ่งเรียนจบใหม่ๆ แล้วย้ายมาอยู่ออสทันที แต่ไม่มีประสบการณ์ทำงานเลย ถามว่ายังพอทำ CV แบบ combination ได้ไม๊ ก็ตอบว่าได้แต่มันจะไม่ effective อารมณ์เหมือนเอาส้อมมาตักกินข้าวแทนช้อนอะครับ 55 มันก็พอใช้งานได้แต่ไม่ตรงกับ format มากนัก
อีกลักษณะนึงของ CV ที่ออสเตรเลียคือ ต้องเน้นที่ Demonstrable skills ที่เรามีอยู่จริง แม้เราจะพึ่งเรียนจบใหม่ๆ แต่เราจะต้องเป็นคนที่มี extracurricular เยอะพอที่จะถอด skills จากกิจกรรมของเราแยกออกมาเป็น keyword ได้
ตัว functional CV มี format ที่เหมาะกับการโชว์ keyword จากกิจกรรมต่างๆ หรือประสบการณ์ทำงานที่มีความหลากหลาย ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าแต่ละ bullet ของ CV แบบนี้จะอธิบายแต่ละกิจกรรมแยกออกจากกัน โดยจะเรียงตามความสำคัญของ skills ที่เราได้จากแต่ละงานเป็นหลัก ไม่ได้เรียงตามลำดับเวลาจากปัจจุบันย้อนกลับไปหาอดีตเหมือน CV แบบ Combination
----------
6. จะใส่ skills อะไรใน CV ให้เหมาะกับอาชีพที่เราจะสมัครดี ??
ผมมี cheatcode มาแนะนำครับ
ให้เรา search occupation ที่เราต้องการสมัคร >> จากนั้นเลื่อนไปดูตรง skills and knowledge ซึ่งจะเรียงตามความสำคัญของ skills ต่ออาชีพนั้นๆ ยิ่งเยอะยิ่งจำเป็นที่จะต้องนำมาใส่ใน CV ตัวอย่างอาชีพ Waiters จะมี
Tasks
- setting and arranging tables
- greeting customers and presenting them with menus and beverage lists
- taking orders and relaying them to kitchen and bar staff
- serving food and beverages
- clearing tables and returning dishes and cutlery to kitchen
- collecting payments for sales and operating point of sales machines and cash registers
Skills ซึ่งจะได้จากประสบการณ์ เช่น
- Critical thinking
- Monitoring
- Serving others
- Coordination
- Active listening
Knowledge จะได้จาก formal training เป็นหลัก
- Customer service
- Food production
- English language
- Sales and marketing
เราอาจเริ่มจากดู skills, knowledge ของตัวเราเองว่ามีตรงกับ Task หรือ skills ของงานที่จะสมัครข้อไหนบ้าง จากนั้นก็ใส่ keyword นั้นเข้าไปใน CV ของเรา แม้ประสบการณ์ในอดีตเราอาจจะไม่เคยทำงานในสายนั้น แต่ถ้าทักษะมีความใกล้เคียงกันเราก็สามารถใส่ไปใน CV ของเราได้ แต่ให้อธิบายที่มาของ skills ตามประสบการณ์ของเราแทน
----------
7. ข้อสังเกตุ หรือ ข้อแนะนำ
1) Key achievement หรือตัวชี้วัดความสำเร็จของงาน อาจใส่อธิบายเพิ่มได้ ถ้าเราทำงานแบบโปรเจค หรืองานที่มีแผนและตัวชี้วัดชัดเจน
2) ตรวจสอบเรื่อง grammar และการสะกดคำให้ถูกต้อง รวมถึงภาษาควรเป็น Australian English
3) บางงานอาจใส่ประเภท Visa ของเราไปด้วยได้ จะช่วยให้นายจ้างรู้ work condition ของเรา
4) เลือก reference ดีดีนะครับ เอาคนที่เข้ากับเราได้ดี และจะพูดถึงเราในด้านบวกนะ 55
5) ถ้ามี linkedin ใส่ไว้ใน cv ส่วน profile ได้เลยครับ ที่นี่ใช้ linkedin กันเกือบครึ่งประเทศได้ !!!
6) ไม่ต้องเล่าทุกอย่างในชีวิตการทำงาน ใส่เฉพาะสิ่งที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่เราจะสมัครพอครับ
7) แอดใช้ CV แบบ combination ที่ทุกคนใช้กัน เหมือนที่นี่จะฮิตแบบนี้กันนะ
ตอนนี้เราสามารถใช้ chatgpt มาทำ optimization ให้กับ CV ของเราได้แล้วนะครับ ง่ายๆคือ chatgpt จะมาช่วยแต่ง CV เราให้ algorithm ของระบบ recruiting เจอ cv เราและ matching กับตำแหน่งได้ง่ายขึ้น !!! ไว้จะเล่าอีกทีครับ
