Review กลับไทยด้วย Scoot Air เที่ยวบินที่ถูกที่สุด ... แต่ต้องนอนสนามบินนะ

-----

Scoot แอดเชื่อว่าเป็นหนึ่งในสายการบินขวัญใจของคนไทยที่อาศัยอยู่ในออสเตรเลียละครับ ด้วยความที่เป็น lowcost ราคาประหยัดพอรับได้ มีเที่ยวบินให้เลือกเยอะ ขนาดเครื่องบินและที่นั่งพอรับได้ไม่เล็กจนเกินไป และที่สำคัญคือได้มีเวลาพอแวะเที่ยว Singapore หรือซื้อของ duty free ที่สนามบินด้วย ก็เลยทำให้หลายคนเลือกบินในเส้นทางสิงคโปร์นี้

แต่วันนี้แอดจะมาบิน Scoot ไฟลท์ที่ถูกที่สุด ราคาโปรที่แอดได้สำหรับขา SYD-SIN-BKK คือตกคนละ $300 เป็นเวลาบินที่คนกลับไทยไม่ค่อยเลือกกันเพราะว่ามี layover time ถึง 12 ชั่วโมง หรือเรียกง่ายๆ ว่า ถ้าไม่นอนค้างที่โรงแรมก็ต้องนอนรอที่สนามบินนั่นล่ะ แต่รอบนี้แอดจะพานอนสนามบินครับ !!! ซึ่งขอบอกเลยว่า นอนสบายมาก ไม่ได้ลำบากอะไรเลย และของกินเต็มไปหมด 555

1- เที่ยวบินที่ว่าคือ TR3 เส้นทาง SYD-SIN ออกเดินทางตอน 12.35 และถึงสิงคโปร์ตอน 18.55 ส่วนไฟลท์ต่อจะเป็น TR608 เดินทางอีกวันในเวลา 06.20 และถึงสุวรรณภูมิตอน 08.05 ครับ เมื่อเรามาถึงสนามบิน Sydney แล้ว ต่อให้เราไม่มีกระเป๋าโหลด print boarding pass มาแล้ว เราก็ต้องมาเข้าแถว check-in อีกรอบที่ terminal เพื่อชั่งน้ำหนักกระเป๋าครับ โดนทุกคน !!!

ตรงจุดนี้จะเสียเวลามากเพราะนอกจากต้องชั่งกระเป๋าแล้ว บางคนมีติดเรื่องเอกสาร ฯลฯ ก็ต้องรอคิวกันต่ออีก แอดเองใช้เวลารอตรงนี้ตั้งแต่ 10.00 - 11.30 ครับ กว่าจะผ่าน security check ผ่าน immi เดินถึง gate ก็ final call แล้ว แทบไม่มีเวลาซื้อของอะไรเลย ถ้าคนไหนที่เดินมาเลยไม่ยอมไปที่ check-in counter แอดเห็นโดนตรวจวุ่นวาย ถ้าน้ำหนักเกินโดน charge เงินให้โหลดกัน onspot ตรงนั้นเลยครับ ซึ่งแพงมากๆๆ นะ

2- เที่ยวบินนี้บินด้วย Boeing B787-900 จุดสังเกตง่ายๆคือ หน้าต่างไม่มีฉากกั้น แต่กดปุ่มเพื่อเพิ่มความเข้มกระจกไว้ตัดแสงจากภายนอกได้ รุ่นนี้มีผังที่นั่งคือ 3-3-3 ซึ่งถ้าเป็นไปได้ จองแถวฝั่งที่ติดหน้าต่างจะนั่งสบายกว่าครับ มันมีที่ให้พิงหัวยืดขาได้มากกว่า ถ้าเรานั่งตรงกลางแถว E-F-G แอดรู้สึกว่ามันเหยียดขาไม่สบาย คนเดินไปมา หลับไม่ค่อยสนิทเท่านั่งติดหน้าต่าง หรือถ้าใครไม่อยากนอน โหลดหนังโหลด netflix ไปหน่อย เพราะบนเครื่องไม่มีจออะไรให้ดูเลย อย่างตอนบินการบินไทยที่ยังไล่ดู John Wick ครบทั้ง 4 ภาคได้อยู่ 555

3- เที่ยวบิน SYD-SIN ใช้เวลาประมาณ 8.5 ชั่วโมงก็เดินทางถึง Changi ละครับ เวลาท้องถิ่นประมาณทุ่มนึงโดยประมาณ ทีนี้เราจะมีเวลา layover ถึงเกือบ 12 ชั่วโมง แล้วเรามีทางเลือกอะไรบ้างล่ะ

- นอนสนามบินใน concourse ดีไม๊??

- หรือเช่าโรงแรมแถวสนามบินดี

ด้วยความที่ flight ต่อเราต้อง board ช่วงเช้ามืดประมาณ 05.00 ซึ่งรถไฟยังไม่เปิด ดังนั้นถ้าเลือกจะไปนอนโรงแรม แอดแนะนำให้หาแถวๆ สนามบินที่มี airport shuttle ครับ อาจจะโซน Tenah Merah, Tampines, Pasir Ris หรือถ้าเอาง่ายสุดเลยก็พักโรงแรมที่ Jewel นั่นละครับ ชื่อโรงแรมคือ Yotelair ตั้งอยู่ชั้น 4 ของ Jewel ห้องจะขนาดไม่ใหญ่มาก เข้าไปเจอเตียงเลย ราคาต่อคืนเริ่มกันที่ 4,000 บาทขึ้นไป

4- Jewel คือห้างสรรพสินค้าในโซนพื้นที่ landside ของสนามบิน Changi ขนาดใหญ่มาก อยู่ตรงกลางของ T1 T2 T3 เลย โดยมีจุดเด่นคือ น้ำตกบริเวณกลางห้างที่ตกแต่งด้วยภูมิสถาปัตยกรรมเลียนแบบป่าร้อนชื้น และมีรถ tram วิ่งเชื่อมจาก T2-T3 ทะลุตัดผ่านหน้าน้ำตกเลย เอากับพี่ Singapore เค้าสิ จะไม่ให้สุวรรณภูมิได้ผุดได้เกิดเลยหรอ 55

๋Jewel นั้นเป็นห้างที่ใหญ่มากครับ มีทุกอย่างที่ต้องการ และคน local ที่ไม่ได้จะมาขึ้นเครื่องบินก็ยังมาเดินเที่ยว Jewel กันเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นแอดว่า ถ้าเราต่อเครื่องที่นี่ เคยมา Singapore แล้วและไม่จำเป็นต้องเข้าเมืองเพื่อไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ อยู่ที่นี่พอครับ เดินห้าง หาของกิน ถ่ายรูปสวยๆ นั่งรถ tram จาก T2 ไป T3 เพื่อรอถ่ายรูปวิวน้ำตกบน tram ลงไปชั้นใต้ดินเพื่อกิน Song Fa บักกุเต๋ ซุ๊บกระดูกหมูหอมเครื่องเทศและพริกไทยเจ้าดังของ Singapore และที่ชั้นใต้ดิน B2 นี้เราสามารถถ่ายรูปกับผนังกระจกที่มีน้ำตกจากข้างบนไหลลงมา กลายเป็นพื้นหลังม่านน้ำที่สวยงามมากครับ อย่าลืมแวะไปถ่ายรูปกัน !!!

ปกติเวลาแอดมาต่อเครื่องที่นี่ ถ้าไม่ได้นัดเพื่อนที่ Singapore ก็จะแวะไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่ Bugis จากนั้นก็ตระเวนอยู่ที่ Jewel ละครับ พอแล้วว !!!

5- กลับมาเรื่องนอนต่อ ถ้าเราไม่อยากเสียตัง 4,000 บาทเพื่อนอนโรงแรม เราสามารถนอนสนามบินได้นะครับ ที่ Changi จะมีโซนที่เรียกว่า quiet zone ที่มีเก้าอี้ให้เรานอนได้ โดยจะอยู่ที่ T2 และ T3 แต่ถ้าเป็นจุดที่สงบที่แอดขอแนะนำ คือให้ไปนอนที่ Terminal 2 (T2) โดยโซนนอนจะอยู่ที่ concourse E บริเวณ E5 และ E11 ครับ แต่จุดที่ดีที่สุดตามรูปที่แอดโพสคือ E11 เพราะเงียบกว่า ไฟมืดกว่า คนเดินผ่านน้อยกว่า มีห้องน้ำ ห้องเปลี่ยนชุด จุดเติมน้ำดื่ม เรียกได้ว่าหลับสบาย มีทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการนอนเลยล่ะ

6- อีกเหตุผลนึงที่แนะนำ T2 เพราะว่าตอนเช้าเราตื่นมาตี 4 ตี 5 เพื่อรอขึ้นเครื่อง ตรงจุดนี้ของกินเยอะมากครับ ชานม กาแฟร้อน kaya toast โจ๊ก bbq pork ขนมของฝาก ชิฟฟอนเค้ก bengawansolo ของฝากอย่างชากาแฟ baja coffee หรือจะกระเป๋าแบรนด์ Charles Keith ที่ฮิตในหมู่คนเอเชียก็มีชอปอยู่ตรงนี้ครับ และจากจุดนี้ถ้าเราต้องไปขึ้นเครื่องที่ T1 ก็สามารถเดินไปขึ้น Tram ที่อยู่ใกล้ๆ ได้ครับ

7- สำหรับ scoot นั้นกระเป๋าจะเป็น checkthrough อยู่แล้ว ดังนั้นเราเดินตัวเปล่าไปที่ gate ได้เลยแล้วค่อยไปรอรับกระเป๋าที่สุวรรณภูมิทีเดียวครับ สำหรับเที่ยวบิน SIN-BKK ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.5 ชั่วโมงโดยประมาณ

ถ้าแอดจำไม่ผิด scoot จะมีไฟลท์ที่แอดบิน ซึ่งจะถึง Changi ตอน 19.00 และอีกไฟลท์นึงซึ่งจะถึงประมาณ 22.00 คือสุดท้ายแล้วยังไงเราก็ต้องนั่งกินนอนกินอยู่ที่ Singapore คืนนึงละครับ ดังนั้น ถ้าใครที่สะดวกรับได้ตามที่แอดรีวิว เสียเวลารอหน่อย ต้องเช่าโรงแรมหรือนอนค้างสนามบินเพื่อรอต่อเครื่องตอนเช้า การบิน scoot ก็เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าคุ้มราคาครับ แต่ถ้าใครที่มีลูกเล็กมากๆ ไม่ต้องการความลำบาก ก็ยังมี Singapore Airlines ให้เลือกครับ หรือถ้าอยากบิน direct flight การเลือกบินกับ Thai Airways ก็ยังคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับแอดครับ

 #คนไทยในต่างแดน #คนไทยในออสเตรเลีย #ทีมออสเตรเลีย #ออสเตรเลีย #เดินทางต่างประเทศ #scoot #changi #คนไทยในซิดนีย์