top of page

ทำงานระหว่างเรียนในปี 2023 สถานการณ์จะเป็นยังไงบ้าง



โพสนี้จะมาพูดคุยกันเรื่องงานกลุ่ม Accommodation and food services ที่อยู่ในงานด้าน hospitality ซึ่งหลายคนที่วางแผนจะมา Australia อาจกำลังลังเลว่าหลังจากวันที่ 1 July 2023 ไปแล้ว นักเรียนส่วนใหญ่ที่ไม่สามารถทำงาน Full-time ได้แล้วนั้นจะทำให้การหางานนั้นเปลี่ยนไปขนาดไหน และรายได้ที่ลดลงจะพอให้เราอยู่อาศัยใน Australia ได้เหมือนเดิมไม๊

ข้อมูลของโพสนี้มาจากหน่วยงานของรัฐหลายแห่ง ซึ่งเป็นข้อมูลที่อัพเดท ณ ปัจจุบัน (March 2023) ดังนั้นในอนาคตข้อมูลต่างๆ อาจเปลี่ยนแปลงได้ครับ

และข้อมูลก็เป็นเพียงแค่สถิติ ภาพรวม ค่าเฉลี่ยต่างๆ ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับประสบการณ์ที่เพื่อนๆ แต่ละคนได้เจอมา ทั้งในรัฐเดียวกันหรือคนละรัฐกันก็อาจเจอประสบการณ์แตกต่างกันได้

ตามธรรมเนียมเดิม ขออธิบายลักษณะของวิชาชีพใน Australia กันก่อนครับ

----------

1. อาชีพที่อยู่ใน ANZSCO List ที่นักเรียนต่างชาติสามารถทำงานได้นั้น จะถูกกำหนดระดับ Skill level ทั้งสิ้น 5 ระดับ ที่แบ่งตามหน้าที่และความซับซ้อนของงาน โดยวัดจาก

- การศึกษาและคุณวุฒิที่จำเป็นต่อการทำงานอาชีพนั้น

- ประสบการณ์ทำงานในสายอาชีพที่เกี่ยวข้อง

- จำนวนชั่วโมง OJT หรือ Trial period ที่จำเป็น

ซึ่งอาชีพใน Skill Level ที่สูงกว่าก็จะมีแนวโน้มได้ค่าแรงที่สูงกว่าด้วย

และหากเรียงจาก Skill Level 1-5 (มากที่สุด-น้อยที่สุด) ส่วนใหญ่ในแต่ละระดับจะมี criteria วุฒิการศึกษา ดังนี้

 Skill Level 1 ระดับ Higher Education (Diploma, Degree)

 Skill Level 2 ระดับ Diploma / Advanced Dip

 Skill Level 3 Cert III / Cert IV หรือ มีประสบการณ์

 Skill Level 4 Cert II / Cert III หรือ มีประสบการณ์

 Skill Level 5 วุฒิมัธยม / Cert I

----------

2. ดังนั้น ถ้าแอดคัดมาเฉพาะอาชีพที่คนไทยนิยมกันในสายนี้ เรียงตาม Skill Level ข้างต้น จะได้เป็น

 Skill Level 1 Musician, Entertainer, Artist, Presenter

 Skill Level 2 Chef, Café Manager, Hospitality Manager

 Skill Level 3 Cook, Pastrycook, Baker

 Skill Level 4 Waiter, Barista, Receptionist, Retail Supervisor, Gaming Worker

 Skill Level 5 Kitchen Hand, Café Worker, Housekeeper, Cleaner, Cashier

---------

3. การขยายตัวของอุตสาหกรรมด้าน Hospitality เติบโตสูงสุดเป็นอันดับที่ 4 รองจากสายสุขภาพ, วิทยาศาสตร์ และการศึกษา โดย Skill level ที่มีจำนวนตำแหน่งงานมากที่สุด คือกลุ่มอาชีพใน level 4 ดังนั้น อาชีพ Waiter, Barista, Receptionist, Retail Supervisor และ Gaming Worker จะมีการแข่งขันที่ต่ำกว่าอาชีพใน level 5 เช่น Kitchen Hand, Café Worker, Housekeeper, Cleaner, Cashier

แต่... อาชีพ level 4 ส่วนใหญ่ต้องการคุณวุฒิในระดับ Cert II / III และ/หรือมีประสบการณ์ในอาชีพนั้น ทำให้โอกาสในการได้งานจะยากกว่าอาชีพ level 5 ที่ส่วนใหญ่ไม่ต้องมีประสบการณ์ทำงานมาก่อนก็สามารถสมัครงานได้ (ส่วนใหญ่นะ)

----------

4. ดังนั้น ถ้าพึ่งมาเรียนใหม่ๆ ยังไม่เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ อาจลองเริ่มหางานในกลุ่ม skill level 5 ก่อนก็จะเป็นโอกาสที่ดีครับ หรือถ้ามีประสบการณ์ด้านนี้มาบ้างแล้วจากไทย ลองหางานในกลุ่ม skill level 4 ก็จะทำให้เราได้ค่าแรงที่มากกว่า พอเยียวยาชีวิตและยังชีพในปีนี้ที่ทำงานได้แค่ part-time ได้บ้าง

----------

5. ค่าแรงเฉลี่ย/hr มีดังนี้

 Chef 33 A$

 Café/Restaurant Manager 33 A$

 Café Worker 31 A$

 Cook 29 A$

 Waiters 28 A$

 House Keeper/ cleaner 27 A$

 Kitchenhands 24 A$

ข้อมูลเป็นค่าเฉลี่ยของแต่ละอาชีพเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงนั้นค่าแรงที่แต่ละคนได้ก็แตกต่างกันตามความสามารถของเราเอง ประสบการณ์ทำงาน หน้าที่ความรับผิดชอบ รวมถึงการเจรจาต่อรองกับนายจ้างด้วย

ซึ่งหลังจาก 1 July 2023 เป็นต้นไป เราสามารถทำงานได้เพียง 48 hr/2 weeks หรือคิดง่ายๆ คือ 24 hr/week ดังนั้น สมมติว่าเราทำงานได้ค่าแรงที่ 24 A$/hr ทำ 1 สัปดาห์ก็จะมีรายได้ = 576 A$ ถ้าอยู่คนเดียวก็พอไหวครับ และถ้าสมมติมากัน 2 คนก็จะมีรายได้สัปดาห์ละ 1,152 A$ ก็จะดีขึ้นนิดนึง พออยู่ได้ไม่ลำบาก แต่อาจจะต้องเตรียมเงินสำหรับจ่ายค่าเทอมมาจากไทยแล้ว ชีวิตจะได้ไม่ตึงมากนัก

ทางออกที่ดูจะดีที่สุดนั้นก็คือ การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของตัวเอง ให้สามารถไปทำงานในกลุ่ม level 4 ที่มีค่าแรงสูงกว่าได้ เช่น ถ้าทำงาน Waiters ก็จะได้ 28A$/hr หรือคิดเป็น 672 A$/week

----------

6. ตลาดแรงงานของแต่ละอาชีพในสาย Hospitality นี้ มีสัดส่วนการจ้างงานในแต่ละรัฐ ดังนี้

1) Waiters ทั่วประเทศจำนวน 136,600 คน มีสัดส่วนการจ้างงานแบ่งเป็น NSW 30%, VIC 28%, QLD 19.5% SA 7.3, WA 9.5%, TAS 2.5%

โดยส่วนใหญ่ทำงานในเมืองใหญ่กว่า 65% ใน area ดังนี้

 Melbourne : Inner

 Gold Coast

 Sydney : City and Inner South

 Melbourne : West

 Melbourne : Southeast

.

2) Kitchen hands ทั่วประเทศจำนวน 141,500 คน มีสัดส่วนการจ้างงานแบ่งเป็น NSW 28.3%, VIC 25.6%, QLD 20.8%, SA 8.2%, WA 12.2%, TAS 2.4%

โดยตำแหน่งงานนี้ทำงานในเมืองใหญ่แค่ 41% ใน area ดังนี้

 Melbourne : South East

 Melbourne : West

 Sydney : Inner South West

 Perth : South East

 Gold Coast

.

3) Bar attendants and Baristas จำนวน 117,400 คน มีสัดส่วนการจ้างงาน แบ่งเป็น NSW 37.5%, VIC 20.3%, QLD 21.6%, SA 6.2%, WA 9.8%, TAS 1.9%

โดยตำแหน่งงานนี้ทำงานในเมืองใหญ่แค่ 41% และรัฐ New South Wales (เมือง Sydney) มีการจ้างงานในตำแหน่งนี้มากที่สุด

.

4) Cooks ทั่วประเทศจำนวน 52,200 คน มีสัดส่วนการจ้างงานแบ่งเป็น NSW 31%, VIC 24.5%, QLD 20%, SA 7.5%, WA 10.9%, TAS 2.8%

โดยตำแหน่งงานนี้ทำงานในเมืองใหญ่แค่ 41% ใน area ดังนี้

 Melbourne : West

 Sydney : Inner South West

 Melbourne : South East

 Melbourne : Inner

 Gold Coast

.

5) Cafe Workers จำนวน 33,800 ตน มีสัดส่วนการจ้างงานแบ่งเป็น NSW 31%, VIC 24.7%, QLD 19.5%, SA 7.9%, WA 11.4%, TAS 2.5%

โดยตำแหน่งงานนี้ทำงานในเมืองใหญ่แค่ 41% ใน area ดังนี้

 Melbourne : Inner

 Melbourne : South East

 Gold Coast

 Perth : North West

 Melbourne : West

.

สรุปสิ่งที่น่าสนใจ คือ

1. อาชีพ Kitchen hand รัฐ QLD มี demand ค่อนข้างสูงกว่ารัฐอื่น เมื่อเทียบกับประชากร

2. เทียบกับจำนวนประชากร เมือง  Gold Coast เป็นเมืองที่ Demand ของงานด้าน Hospitality ในหลายๆ อาชีพสูง (เด่วจบโทแอดก็จะย้ายไปอยู่ที่นี่แหละ)

3. Barista and Bar attendant รัฐ NSW (Sydney) มี Demand มากกว่ารัฐอื่นอย่างชัดเจน

4. Cooks เมือง Melbourne มี Demand กระจายอยู่ตาม Suburb ต่างๆ ทั่วเมือง

5. Cafe Worker เมือง Melbourne มี Demand กระจายอยู่ตาม Suburb ต่างๆ ทั่วเมือง

----------

7. ความท้าทายของนักเรียนต่างชาติในปี 2023 นี้คือ งานที่สามารถทำได้นั้นจะมีการแข่งขันที่สูงขึ้นมากกกจากปีก่อน เนื่องจากนักเรียนต่างชาติที่ทยอยเดินทางมายัง Australia นั้นเพิ่มขึ้นจนเกือบเทียบเท่าช่วงก่อน Covid แล้ว

หากดูจากสถิติจำนวน Visa นักเรียนในปัจจุบัน แต่ละรัฐมีจำนวนนักเรียนที่ถือ Student visa (500) ดังนี้

- NSW 184,300 คน

- VIC 138,900 คน

- QLD 91,300 คน

- SA 39,300 คน

- WA 34,000 คน

- TAS 5,000 คน

- ACT 11,900 คน

และระดับการศึกษาของนักเรียนกลุ่มนี้เป็นกลุ่ม VET และ degree (ที่มีทักษะภาษาอังกฤษ) ถึง 58% ดังนั้น หากเป็นนักเรียนภาษากลุ่ม Elicos น้องๆ และเพื่อนๆ อาจรู้สึกได้ว่าทำไมงานมันหายากขึ้นจัง ซึ่งในภาพรวมนั้น จำนวน Demand คนหางานมันเพิ่มขึ้นไวมากกว่าจำนวน supply ของตำแหน่งงานที่เปิดรับคน เพราะในบางธุรกิจด้าน Hospitality จำนวนผู้ประกอบการมันยังไม่ได้เติบโตกลับคืนมาในยุคหลัง Covid ขนาดนั้น

งานในกลุ่ม Skill level 5 จะมีการแข่งขันกันสูงขึ้นในกลุ่มนักเรียนหลักสูตร Elicos หรือ VET (Cert & Diploma) ที่ยังสื่อสารภาษาอังกฤษไม่เก่งมากนัก และอาจมีนักเรียนที่ผิดหวังจากงานกลุ่ม level 4 มาแย่งชิงงานในกลุ่มนี้ด้วย

ส่วนงานในกลุ่ม Skill level 4 ที่ต้องการทักษะภาษาอังกฤษและมีค่าแรงที่ดี เช่น Barista, Cafe Attendant หรือ Cook เหล่านักเรียนคนไทยก็ต้องไปแข่งขันกันกับนักเรียนต่างชาติจากประเทศที่เก่งภาษาอังกฤษ เช่น เกาหลี จีน กลุ่มยุโรป หรืออเมริกาใต้ และรวมทั้งนักเรียนในกลุ่ม Higher Education (Diploma และ degree) ที่มีทักษะภาษาอังกฤษที่ดีมากกันอยู่แล้ว

----------

8. นโยบายของรัฐในอนาคตจะช่วยแก้ให้สถานการณ์ดีขึ้นไม๊ ??

ต้องเข้าใจความเป็นจริงกันก่อนว่า อาชีพสาย Hospitality ในระดับ skill level 4-5 นี้ อยู่ในกลุ่มของ short-term labor หมายความว่า เป็นแรงงานระยะสั้นที่ถึงแม้ว่านักเรียน (แรงงาน) ที่เรียนจบในปี 2022 จะเดินทางกลับประเทศไปแล้ว แต่ก็ยังมีนักเรียนกลุ่มใหม่ที่กำลังจะเข้ามาเรียนในปี 2022-2023 มาทดแทนแรงงานกลุ่มเดิมที่พึ่งกลับประเทศไป ดังนั้น ในระดับนโยบายอาจมองเห็นว่ายังเป็นการขาดแคลนในระยะสั้น ไม่ได้มีการขาดแคลนในระยะยาวแต่อย่างใด

ต่างจากแรงงานในระดับ medium/long-term labor ที่เป็นกลุ่มอาชีพมีทักษะที่ขาดแคลนกันทั่วโลก ซึ่งทางภาครัฐจะค่อนข้างให้ความสำคัญและออกนโยบายเพื่อดึงดูดเหล่านักย้ายประเทศที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในอาชีพนั้นๆ มากกว่า เช่น แพทย์ พยาบาล วิศวะ สายไอที สายการศึกษา สายช่าง สายเชฟ เป็นต้น

แต่ก็ยังมีเรื่องดีอย่างระเบียบใหม่ล่าสุด 2 เรื่องที่เข้ามาแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน

เรื่องแรกคือ ตั้งแต่ 1 July 2023 เป็นต้นไปที่กำหนดให้ชั่วโมงทำงานถูกปรับเหลือ 40 ชม./ 2 สัปดาห์ จะเพิ่มให้เป็น 48 ชม./ 2 สัปดาห์ (เฉลี่ย 24 ชม./สัปดาห์) เลยครับ

ซึ่งก็ดูเหมือนจะไม่มาก แต่ที่เพิ่มมา 4 ชม. ถ้าคูณค่าแรงขั้นต่ำ 21 A$ ก็ได้เพิ่มมา 80 เหรียญเลยนะครับ ก็ช่วยให้ตึงให้ชอตน้อยลงหน่อยนะ 55 ยังไงใครที่กำลังจะมา Australia และไม่ได้มาเรียนปริญญาเอก หรือเป็นผู้ติดตามของ นร.ปริญญาโทและปริญญาเอก ก็จะทำงานได้แค่ part-time นะครับ วางแผนกันให้รอบคอบขึ้นนะครับเพราะโกยเงินเป็นกอบเป็นกำแบบเดิมไม่ได้แล้วนะ

ส่วนเรื่องที่ 2 เป็นเรื่อง  Post-study Work rights Extension – additional two years post-study work rights for international graduates with select degrees

โดย post-study visa subclass 485 สำหรับนักเรียนระดับปริญญาจะปรับระยะเวลาเพิ่มขึ้น ดังนี้

 จาก 2 ปี เพิ่มเป็น 4 ปี ของปริญญาตรี บางหลักสูตร

 จาก 3 ปี เพิ่มเป็น 5 ปี ของปริญญาโท บางหลักสูตร

 จาก 4 ปี เพิ่มเป็น 6 ปี ของปริญญาเอกทุกหลักสูตร

หลักสูตรไหนบ้างที่เข้าหลักเกณฑ์ ดูได้ที่นี่

 

ทั้ง 2 เรื่องก็เป็นนโยบายที่มีเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ทั้งกลุ่ม short/ Medium และ Long-term labor แต่จากที่ได้คุยกับเพื่อนๆ น้องๆ ใน Sydney บางส่วนแล้ว คือ “คนล้นแต่งานเท่าเดิมทำให้ถูกลด Shift ซึ่งรายได้ก็หายไปกันหลายอยู่" แอดก็เลยไม่แน่ใจว่าหลัง 1 July แล้วสถานการณ์มันจะดีขึ้นหรือแย่ลงกันแน่เนี่ย

----------

9. Study break เราสามารถทำงาน Full-time ได้ใช่ไม๊ ??

ตอบ ใช่ ... ช่วงนี้แหละคือนาทีทองในการเก็บเงินของนักเรียนทุกคน

Study break คือช่วงพักระหว่างเรียนที่นักเรียนสามารถทำงานแบบไม่จำกัดชั่วโมงได้ ซึ่ง study break นั้นแต่ละหลักสูตรก็จะมีระยะเวลาและช่วงเวลาที่แตกต่างกัน แต่ถ้าเป็นหลักสูตรทั่วไปที่มี 2 semesters จะมีช่วงวันหยุดดังนี้

1) Long break ตั้งแต่ปลาย November - February ปีต่อไป

2) Short break ระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ จะอยู่ในช่วง mid-term break ของแต่ละ semester และ/หรือ ช่วงระหว่าง semester ในเดือน July

3) Holidays เช่น Easter day (7-11 April 2023)

ดู teaching calendar รายละเอียดคร่าวๆ ได้ที่นี่ https://www.universitiesaustralia.edu.au/.../teaching.../

----------

10. กำลังจะมาออสเตรเลียกันในปี 2023 นี้แล้ว ต้องเตรียมตัวยังไงดีค่ะ/ครับ ??

1)  เริ่มจากเตรียมภาษามาให้พร้อมก่อนเลยครับ อาจจะเน้นไปที่ทักษะที่จำเป็นในการทำงานหรือพูดคุยกับคนออสฯ ก่อน เช่น ทักษะการฟัง การพูด ฝึกฟัง youtube คนออส ฝึกดู netflix ให้หูเรามันคุ้นกับ speed ในการพูดของ native ไปก่อน

2)  ดูว่ารัฐหรือเมืองที่เราไปอยู่มีงานด้าน hospitality ด้านไหนที่เด่นดังๆ เป็นจุดขายของเมือง เพราะจากข้อมูลที่แอดเล่าให้ฟังข้างบนแล้วจะเห็นได้ว่า แต่ละเมืองก็มีอุตสาหกรรมด้าน hospitality ที่โดดเด่นแตกต่างกัน รวมถึง Lifestyle ของคนแต่ละเมืองที่ต่างกันก็สะท้อนจากประเภทของร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ต่างๆ ซึ่งก็ส่งผลถึงตลาดแรงงานของเมืองนั้นๆ ด้วย

3)  ลองดูประกาศรับสมัครงานตาม website ต่างๆ เช่น linkedin, gumtree, seek, indeed, airtasker ฯลฯ แล้วดูคุณสมบัติที่นายจ้างต้องการในตำแหน่งนั้น แล้วพัฒนาตนเอง เตรียมตัวเรามากที่สุดเท่าที่จะทำได้

4)  ทำ resume หรือ profile เพื่อใช้สมัครงานตาม platform ต่างๆ เช่น linkedin, seek, indeed รวมทั้งทำ onedrive ไว้เก็บไฟล์สำหรับสมัครงานเช่น cv, certificate, coe หรือเอกสารที่เกี่ยวกับ project ต่างๆ ที่เคยทำ ไว้เผื่อส่งให้ recruiter หรือนายจ้างๆได้ง่ายๆ ยุคนี้เราต้อง online กันแล้วครับ

5)  คำนวณค่าใช้จ่ายให้ดีดี เพราะนอกจากค่าครองชีพที่สูงขึ้นแล้ว รายได้ที่ลดลงก็จะทำให้ชีวิตลำบากมากขึ้นด้วย และการมาเป็นคู่สองคนจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ share กันได้ไปพอสมควรครับ

----------

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ย้ายตัวเองมาได้สำเร็จแล้วนะครับ ชีวิตอาจจะลำบากขึ้นบ้างมีอุปสรรคขึ้นบ้าง แต่ขอให้เชื่อมั่นใจความสามารถของตัวเอง ให้กำลังใจกันและกัน และอย่าลืมให้รางวัลกับตัวเองกับความสำเร็จเล็กๆน้อยๆด้วยนะครับ รวมทั้งอย่าลืมกด Follow กด Like กันไว้ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงจะได้ไม่พลาดข่าวสารที่ Travelroute in Sydney  มาอัพเดทกันแน่นอน

Siam-Sydney Services Pty Ltd.

Phone / Whatsapp :    +61 426 921 316  Kittipol

                                    +61 433 419882  Racha

Email : siamsydneyservices@gmail.com

Line ID : @435odnwk

© 2025 Siam Sydney Services Pty Ltd Copyright
bottom of page