Bye Bye Bangkok...See You Sydney
- namchasang .
- Nov 28, 2024
- 1 min read
สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกคน แอดกลับมาแล้วครับ 555 หลังจากหายไปพักผ่อนที่กรุงเทพมา 2 สัปดาห์ติดเลย ได้พบเจอครอบครัว ทำธุระหลายอย่างให้เสร็จสิ้น รวมถึงได้พักผ่อนระหว่างปิดเทอมเล็กด้วย
ถ้าเป็นการเรียนมหาวิทยาลัยที่ออสฯ เราจะมีปิดเทอมเล็กระหว่าง session กันประมาณ 2 สัปดาห์ จากนั้นเราจะมีปิดเทอมใหญ่กันอีกทีคือช่วงปลายเดือน ตุลาคม - ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปิดยาวๆ กันเกือบ 4 เดือนเลยครับ
มากรุงเทพฯ รอบนี้ได้ทำอะไรหลายอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือของความเหลื่อมล้ำ ที่ค่อนข้างหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ข่าวในแต่ละวันที่ได้ดู ทั้งเรื่องน้ำท่วมภาคเหนือ ระบบเตือนภัยที่ล้มเหลวของรัฐและการให้ความช่วยเหลือที่ล้มเหลวของรัฐ เรื่องอาชญากรรมต่างๆ การปล้นชิงทรัพย์ เรื่องการขายทองปลอม เรื่องเงินช่วยเหลือ 10,000 บาท ที่ให้กับกลุ่มเปราะบาง ซึ่งก็มีทั้งเปราะบางจริงและไม่จริง
แอดดูในข่าว ป้าบางคนไม่เคยจับเงินหมื่นมาเป็น 5-6 ปี ถึงกับร้องไห้น้ำตาไหล หลายคนได้เงินต่อชีวิตไปอีกครึ่งปี กับเงิน 10,000 บาทสำหรับบางกลุ่มอาจเป็นเงินเล็กน้อย แต่สำหรับหลายๆ คนมันทำให้ดำรงชีวิตไปต่อได้จริงๆ ครับ
ตอนไปสถานีตำรวจโต๊ะข้างๆ ทะเลาะกันเรื่องมอไซต์ชนกัน แล้วจะเรียกร้องเงินค่าเสียหายแค่ 3,000 บาทก็ยังไม่สามารถจ่ายได้ พอไปศาล ก็เจอโต๊ะข้างๆ ลูกหลานทะเลาะกันเรื่องมรดกเรื่องการแบ่งทรัพย์สินพ่อแม่ ตอนไป รพ.ก็เห็นเลยว่าคนที่ไม่ได้ร่ำรวยก็ต้องรอคิวการรักษา เอารองเท้าวางต่อกันนั่งรอเป็นครึ่งวันกว่าจะได้ตรวจ ส่วนคนมีตังมีฐานะหน่อยก็ใช้การจ่ายเงิน (ที่ธรรมดาสำหรับเค้าแต่แพงมากสำหรับเรา) เพื่อให้เข้าถึงการให้บริการที่รวดเร็วขึ้น
ตอนขับรถตามท้องถนน ถ้าคุณไม่มีรถก็ต้องใช้รถเมล์อย่างไม่มีทางเลือก ถึงตอนนี้จะมีรถไฟฟ้าครอบคลุมทั้งเมืองแล้ว แต่ถ้าบ้านคุณอยู่สายไหมแบบบ้านแอด จากสถานี BTS ในคืนวันฝนตก อาจต้องยืนรอรถเมล์กว่า 2 ชั่วโมง แล้วเมื่อไหร่จะถึงบ้านกันล่ะ
แอดไปเดินห้าง จริงอยู่ที่เราสามารถหาของกินราคาย่อมเยาได้ทั่วไปตามริมท้องถนนหรือตามห้างสรรพสินค้าในชั้นใต้ดิน แต่การกินอาหารในร้านทั่วไปนั้นมีค่าใช้จ่ายไม่ต่างจากอยู่ที่ออสเตรเลียเลยครับ ยังไม่ต้องถึงกับไปห้างไฮโซอย่างพารากอน ไอคอนสยามก็ได้ แค่ห้างเล็กๆ ตามซอยบ้าน โลตัส ฯลฯ ของก็แพงขึ้นเยอะอย่างเห็นได้ชัด
แต่จริงๆ แล้วกรุงเทพก็ยังเป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับแอดเสมอครับ เพียงแต่ว่าคุณก็ต้องอยู่ตามกำลังความสามารถของตัวเอง ถ้ามีรายได้ไม่เยอะ ก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ แต่ก็จะไม่สบายมากนัก ห้องเช่า 5,000 ค่าข้าว 40 ต่อรถเมล์รถไฟฟ้า มันก็พออยู่ได้ ไม่ลำบากแต่ก็ไม่สบาย แต่รายได้ก็จะไม่ได้ดีมากนัก
แต่ถ้าคุณเป็นช่าวต่างชาติ ความได้เปรียบเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนเป็นเศรษฐีตัวเล็กๆ แบบแอดได้ 555 กินข้าวเหนียวหมู $1 กาแฟ $3 ทุกอย่างถูกไปหมด จะหยิบจ่ายอะไรก็ง่าย ต่อให้เป็นของราคาแพง แต่มันก็เป็นราคาเท่ากับที่จ่ายที่ออสเตรเลียเท่านั้น
ดังนั้นจึงไม่แปลกใจว่าทำไมทุกคนถึงชอบมาเที่ยวไทย ชอบมาทำงาน มาอาศัยอยู่กรุงเทพ และเมืองไทยในบั้นปลายชีวิต เพราะมันอยู่ง่ายจริงๆครับ ไม่ว่าคุณจะเป็น budget traveller หรือมาเที่ยวแบบหรูหรา บ้านเรามี facility แทบทุกแบบ แทบทุกระดับราคา ตอบโจทย์ความต้องการของคนทุกกลุ่ม แถมเดินทางง่าย จะไปไหนก้มีห้าง หกล้มที่ไหนก็มีร้านกาแฟตั้งอยู่ตรงนั้น ตัวเมืองมีความเจริญอยู่ง่าย ต่างจังหวัดมีธรรมชาติที่สวยงาม แล้วใครจะไม่อยากอยู่จริงมะ
ตัวแอดเองก็คงจะไปพูดแทนคนกรุงเทพทุกกลุ่มไม่ได้ เพราะพ่อแม่แอดเองก็สร้างฐานะขึ้นมาให้ลูกหลานสุขสบาย ตัวแอดเองก็ไม่ได้ไปใช้ชีวิตลำบากเหมือนกับบางคน ดังนั้นกรุงเทพสำหรับแอดนั้นอยู่สบายมาก แต่ถ้าถามคนอื่นก็อาจไม่ได้รับคำตอบเดียวกับแอดเหมือนกัน
แต่เรื่องพวกนี้มันคนในอยากออกคนนอกอยากเข้าครับ คนที่อยู่อาศัยมานานเป็น 20-30 ปี เจอปัญหาเจอความเฮงซวยของประเทศก็ย่อมอยากโยกย้ายไปอยู่ออสเตรเลียหรือประเทศอื่นๆ ที่ดีกว่า ส่วนชาวต่างชาติที่เจอปัญหาชีวิตในบ้านเกิดเช่นเดียวกัน ก็อาจจะมองประเทศไทยว่าน่าจะเป็นบ้านหลังที่สองที่เริ่มต้นชีวิตใหม่เฉกเช่นเดียวกันก็ได้
สำหรับแอดไทยก็ยังเป็นบ้าน ให้เราได้มาพัก มาตั้งหลัก มาใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว มาใช้เวลานั่งทบทวนตัวเอง นั่งคิดอย่างช้าๆ ถึงเป้าหมายในการโยกย้ายไปออสเตรเลียของเรา ... และวันนี้แอดก็ชาร์ตแบดให้กับตัวเองจนเต็มก้อน 100% แล้ว ถึงเวลาเดินทางกลับไปทำภารกิจต่อที่ซิดนีย์ ตามเป้าหมายที่เราวางไว้ตั้งแต่แรก
